http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,058,364
Page Views16,369,237
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เสือกลิ่นสาบ ตอน 18 เสาเหมืองแร่เฮียฮง โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ ตอน 18 เสาเหมืองแร่เฮียฮง    โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ

โดยอินทรี ดำ

19.เสาเหมืองแร่เฮียฮง

          ในพื้นที่ที่มณีต้องรับผิดชอบ มีการออกอนุญาตให้เฮียฮงได้รับสัมปทานทำการสำรวจแหล่งแร่........บนผืนป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่าน พื้นที่ 540 ไร่ มีป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณที่มีทั้งไม้สักและไม่มีไม้สัก ไม้ใหญ่ก็มี ไม้เล็กๆ ไม่มีค่าในทางเศรษฐกิจก็มี แต่ขั้นตอนการสำรวจแหล่งแร่ยังไม่ชัดเจน การทำเหมืองจึงยังไม่เกิดขึ้น

          เฮียฮงเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของเมืองน่าน มีชื่อเสียงระบือไกลไปทั้งจังหวัด ดินแดนใดที่ทางราชการเข้าไปทำการก่อสร้างไม่ได้ในช่วงสงครามแย่งชิงประชาชน เช่นการตัดถนนสร้างทางเส้นห้วยหลักลาย  สะพาน หรือสิ่งใดๆ ก็ตาม เฮียฮงเข้าได้ จึงเป็นความได้เปรียบเมื่อมีงานที่เข้าข่ายในขีดความสามารถของบริษัททุกครั้ง

          ดังนั้น ที่เหมืองแร่เฮียฮงจึงยังเป็นพื้นที่ที่เตรียมการ มีบ้านพักเล็กๆ สำหรับให้คนงานเฝ้าระวัง มีแทรกเตอร์ตีนตะขาบจอดอยู่เป็นครั้งคราว แต่ในอาณาบริเวณเหมืองเฮียฮง แม้ไม่มีคนเฝ้าก็ไม่มีใครกล้าแตะต้องสิ่งของแต่อย่างใด ทุกอย่างรู้ๆ กันอยู่ว่า “ใครเป็นใคร”

          “หัวหน้า  วันนี้ลองเข้าไปเยี่ยมพื้นที่เหมืองเฮียฮงหน่อยดีไหมครับ?” พี่ชัยคุยด้วยเมื่อเช้าหนึ่ง มณีนั่งฟังด้วยความสนใจ

          “เหมืองเฮียฮงเขายังอยู่ขั้นเตรียมขออนุญาตไม่ใช่หรือพี่” มณีถามย้อนกลับ

          “ใช่ครับ  ว่ากันว่าแกลงทุนไปเยอะมาก ยังไงคงไม่ยอมทิ้งแน่ครับ” พี่ชัยยังชี้ช่อง

          “ไปก็ได้นะพี่ เดี๋ยวพี่สั่งการเลยว่าจะเข้าไปตรวจป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำน่าน แล้วแวะเข้าไปในเขตพื้นที่เตรียมการทำเหมืองเฮียฮงหน่อยก็ดี เผื่อวันหน้าจะได้เข้าใจเรื่องได้ง่ายขึ้น” มณีตอบและปรารภกลายๆ

          รถปีศาจขาววันนี้จึงมีพี่ชัยขับให้มณีนั่ง แค่สองคนด้านหน้ารถก็เต็มแอด อั้วนท้วนสมบูรณ์กันทั้งคู่ ทุกคนรู้ใจก็เลยโดดไปนั่งท้ายกระบะกันหมด   ประเสริฐ สมชาย ส่วน สา เผ่น แถมอร่ามอีกคน รถห้อตะบึงขึ้นผาชู้แล้วไหลลงไปตามที่ลาดลงเขา ข้ามสะพานแม่น้ำน่าน รถจอดพักกลางสะพานเช่นทุกครั้ง

          “เฮ้ย ! ไฟไหม้ รีบไปดับกันเร็ว”

          มณีกระโดดลงแล้วร้องแหย่พวกข้างหลังที่ลงกันพรึบ  ทุกคนวิ่งไปขอบสะพานแล้วงัดสูบน้ำออกมาดับไฟป่ากันเป็นแถว ไม่เว้นแม้แต่พี่ชัย นั่งรถมานานปวดฉี่กันทุกคน

          “อากาศตรงกลางสะพานนี่ ร้อนยังไงตรงนี้ก็เย็นเสมอเลยพี่ชัย” มณีพูดไปก็บิดขี้เกียจไป พี่ชัยหัวเราะแฮะๆ

          “ไอระเหยจากน้ำในแม่น้ำน่าน โดนลมพัดขึ้นมาก็เลยเย็น ชื่นใจจริงๆ นะครับ” พี่ชัยโซ้ยต่อ

          “แต่ถ้าเป็นช่วงฝนลง น้ำแดงเถือกเลยนะพี่ ตะกอนจากการทำไร่ เปิดหน้าดินบนที่สูง ทำลายดินปีหนึ่งหลายพันตันนะครับ”

            มณีหยิบผลวิจัยต้นน้ำมาคุย แล้วเดินขึ้นรถ ปิดประตูดังปัง ทุกคนพร้อม ปีศาจขาวทำงานต่อไป พอถึงปากทางเข้าบ้านน้ำเลา พี่ชัยเลี้ยวขวับด้วยความชำนาญ ใช่ พี่ชัยเคยเป็นหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าย่านนี้มาก่อน เคยตีตราไม้ในป่าสัมปทานทั้งสองฝั่งมาก่อน

          “หลับตาผมก็มาถูกหัวหน้า ผมวนเวียนอยู่ป่าแถวนี้มานับสิบๆปีแล้ว ข้ามห้วยอีกสี่ห้าแห่งเดี๋ยวถึงเหมืองเฮียฮงครับ”

          พี่ชัยพูดขึ้น มณีได้แต่พยักหน้าแล้วเออออด้วยตลอดทาง พี่ชัยเลี้ยวรถเข้าปากทางเข้าเหมืองเฮียฮง รถผ่านถนนที่ปรับเรียบ 2 กม.ก็ถึงเหมืองที่วันนี้ยังคงมีแต่บ้านพักคนงานหลังย่อมๆ  ไม่มีอะไรใหม่ พี่ชัยจอดรถแล้วเดินนำหน้าไปยังบ้านพัก คนงานตัวดำๆ เดินมาไหว้ แล้วหัวเราะๆ

          “เสี่ยไม่มาเลยครับ ผมจะไม่มีข้าวกินอยู่แล้วนะนี่” คนงานพูดขึ้น

 

               

                                                             เสาไม้สักขนาดใหญ่...โรงเรือนเหมืองแร่

          มณีเดินไปดูที่ว่างกลางลานคาดดูว่าสัก 5 ไร่ แล้วเดินมานั่งคุยร่วมวงกับพี่ชัย สภาพพื้นที่ป่าโดยรอบยังเป็นไม้ป่าเบญจพรรณที่มีไม้สักอยู่ด้วย แต่ละต้นโอบไม่มิดเลย  

          “พี่ชัย กลับเถอะ เฮียฮงเขาก็ไม่อยู่”

          มณีพูดขึ้น พี่ชัยเดินไปกระซิบกับคนงานเบาๆ มณีไม่รู้ว่าพี่ชัยพูดอะไร แล้วก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะว่าดูๆแล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติ  รถวิ่งกลับสำนักงานโดยผ่านไปทางบ้านสาลี่ เข้าบ้านส้าน แล้วเลยไปกินข้าวกลางวันที่ร้านในตลาดอำเภอเวียงสา งานนี้ มณีเตรียมควักจ่ายตามระเบียบ

          “เหมืองเฮียเขายังไม่เริ่มอะไรสักอย่างเลยนะพี่ชัย” มณีพูดระหว่างรออาหาร

          “ก็งั้นครับ เห็นว่ากำลังรอผลการรายงานจากกรมทรัพยากรธรณีอยู่ งานนี้เฮียฮงคงหมดค่าวิ่งเต้น สำรวจและตรวจสอบหลายตังส์” พี่ชัยเอ่ยเบาๆ

          “ของใต้ดิน มีมากมีน้อยก็ไม่รู้เลย โชคดีก็รวยไม่รู้เรื่อง โชคไม่ดีถูกหลอกก็เจ๊งมาเยอะแล้วนะครับ” มณีเสวนาเรื่อยเปื่อย

          “สายแร่เฮียฮง ถ้าผลสำรวจว่ามีมากพอละก็ แกรวยพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินเชียวนะครับหัวหน้า” พี่ชัยเปรย

          “เอ้า ! สมชายสั่งเบียร์หรือเหล้าได้เลยนะ เดี๋ยวกลับสำนักแล้ว วันนี้คงแค่นี้แหละ”

          มณีพูดขึ้นบ้าง เสียงหัวเราะดังขรม สมชายเอี้ยวตัวไปสั่งชุดกลาง แม่โขง ตามด้วยมิกเซอร์ครบครัน

          “เขียดทอด จิ้งกุ่งทอด กบผัดกระเพราะเผ็ดๆ นะ แค่นี้ก่อน อ้อ! ใส้หวานทอดด้วย แหม! เกือบลืมของโปรดลูกพี่ แฮะๆ”

          สมชายหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี ซึ่งดีมากทุกครั้งที่ได้น้ำเปลี่ยนนิสัยสีทองมาแจม

          กลับถึงสำนัก ทุกคนกลับไปทำหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบ พี่ชัยขอตัวกลับไปที่ตั้งฝ่ายป้องกันที่หน่วยป้องกัน นน.2 น้ำหิน ใกล้อำเภอนาน้อย ประเสริฐลงกลางทางเข้าไปตามงานปลูกป่า สมชายตรวจเอกสารธุรการเตรียมเบิกเงิน สา ส่วน เผ่น อร่าม ลงสำนักแล้วไปนั่งโขกหมากรุกกันใต้ต้นมะค่าโมง เหตุการณ์ต่างๆ ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

          พี่ชัยยังทำงานตามหน้าที่ของฝ่ายป้องกันรักษาป่า มีทีมสายตรวจออกลาดตระเวณกันเป็นประจำ ประกอบด้วย เกียรติเป็นหัวหน้าสาย แก่น เอก และพนักงานขับรถที่ย้ายตามกันมาจากป่าไม้เขตแพร่ นานๆ มณีได้ยินรายงานวิทยุว่าจับไม้ได้แบบไม่มีตัวบ้าง มีแต่ล้อบ้าง เอกสารรายงานตามมาในภายหลัง หน้าที่ใครหน้าที่มัน รู้รับผิดชอบเป็นดีเสมอ

          ผ่านไปสองเดือนกว่า เย็นวันหนึ่ง มณีกำลังจะเดินออกจากสำนักงานเพื่อลงไปบ้านพักที่สำนักงานมูลนิธิ กลางหมู่บ้านเพื่อพักผ่อน แต่แล้วมีรถยนต์หนึ่งตันสีเขียวใบไม้วิ่งเข้ามาแล้วจอดหน้าสำนัก พี่องอาจเจ้าหน้าที่ที่ดินอำเภอเดินลงมาท่าทีเครียดๆ มณียกมือไหว้เพราะว่าพี่ที่ดินอาวุโสกว่า

          “สวัสดีครับพี่”

          มณีเดินออกไปรับ ที่ดินรับไหว้แล้วจูงมือมณีเข้ามาในสำนักงาน เหลียวซ้ายแลขวาแล้ว เห็นยังมีคนนั่งทำงานอยู่บ้าง จึงจูงมือมณีเข้าห้องทำงานมณีๆ งงๆ แต่ก็เดินตามแล้วหันไปสั่งกาแฟมาเลี้ยง

          “ต้องเข้าไปคุยในห้อง ไม่อยากให้ใครรู้เห็นว่าผมมาหามณี” ที่ดินพูดพลางก็นั่งตรงหน้าโต๊ะทำงานมณี ๆ จึงถามขึ้นบ้างว่า

          “พี่มีอะไรให้รับใช้ ไม่ต้องเกรงใจ บอกมาได้เลยครับ”

          “เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ เฮียฮงแกเบี้ยวผมครับ  คือว่า”

          พี่ที่ดินหยุดกึกแล้วมองหน้ามณี เหมือนจะชั่งใจว่าจะเล่าดีหรือไม่ดี แต่แล้วก็เล่าต่อว่า

          “ที่ดินที่เหมืองแร่ของแกน่ะเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ เหมืองแกนั้นทำท่าว่าจะไม่มีสายแร่พอที่จะทำแล้วรวย แกมาติดต่อผม ขอให้ผมออกโฉนดที่ดิน 50 ไร่ให้แก สัญญากันว่าถ้าผมทำงานสำเร็จจะให้เงินผมใช้ก้อนโต” ที่ดินหยุดกลืนน้ำลายด้วยความยากเย็น ม้วนยกกาแฟมาเสิร์ฟพร้อมน้ำเย็นแก้วโต พี่ที่ดินยกขึ้นสดโฮกใหญ่แล้วพูดต่อ

          “ผมพูดไม่อายครับ ผมรับใช้แกเพราะว่าอยากได้เงินสักก้อนก่อนเกษียน” พี่ที่ดินหยุดนิ่งแล้วมองหน้ามณีที่รับฟังด้วยกริยาปกติ

          “ผมทำให้แกเสร็จ ผมเอาโฉนดไปส่งให้แกเลยนะครับ แต่นั้นมา แกหลบหน้าผมตลอด ไม่จ่ายให้ผมอีกเลย”

          “ทีแรกก็ไม่จ่ายให้บ้างเลยหรือครับ” มณีถามเบาๆ

          “ให้มาหน่อยเดียว ยังขาดอีกสัก 80 % นั่นแหละครับ” พี่ที่ดินทำท่าฮึดฮัด กัดฟันกรอดๆ

          “ไม่คุ้ม ถ้ามีเรื่องครับ  ผมพลาดไปแล้วคุณมณี” พี่องอาจเสียงสั่นเครือ มณีรับฟังและมองด้วยสายตาเห็นใจ พี่ที่ดินดื่มกาแฟหมดแก้วแล้วกล่าวเสียงดังว่า

          “คุณมณี ตอนนี้ไอ้ฮงมันตัดต้นสักขนาดคนโอบไม่มิดมาปลูกโรงงานถลุงแร่ เฉพาะเสาโรงเรือนหลังเดียวก็มีต้นสักใหญ่ๆ 35 ต้นแล้วครับ คุณมณีเข้าไปดูเถอะ ผมกลับละ”  พี่องอาจพูดจบก็ลุกขึ้นกล่าวลา มณีรีบยกมือไหว้แล้วเดินตามไปส่งขึ้นรถ

          “ขอบคุณนะครับพี่ เดี๋ยวผมจะเข้าไปดูด้วยตนเอง”

          พี่ที่ดินขับรถกลับไปแล้ว มณีเรียกประเสริฐและสมชายเข้ามาเล่าเรื่องให้ฟัง สมชายซ้ำขึ้นว่า

          “ก็ตั้งแต่พี่ชัยพาพี่ไปดูคราวนั้น พี่ก็ไม่เคยเข้าไปอีกเลย มัวแต่ไปตรวจที่อื่นเสียนี่” สมชายแหย่

          “โดยเฉพาะที่ท้อง” ประเสริฐเสริม มณีมองหน้าแล้วหัวเราะขำ

          “ใช่ มัวแต่ไปตรวจที่ท้องทุกคืนเลยไม่ได้ออกลาดตระเวณกันเลย ทำไป พวกเราก็ไม่ได้สองขั้นสักคน ท้อโว๊ย! ไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นเล้ย”  

          มณีบ่นแล้วสั่งเตรียมพร้อม กินข้าวเสร็จจะเข้าไปตรวจเหมืองเฮียฮงอีกสักที

           คืนนั้น มณีพร้อมคณะกับรถปีศาจขาวออกเดินทางไปตามถนนสายนาน้อน-บ้านโตก เป้าหมาย เหมืองแร่เฮียฮง  พอรถยนต์ปีศาจขาวจอดที่หน้าเหมือง แสงไฟหน้ารถส่องสว่างโพลงพุ่งโป๊ะไปที่เสาโรงถลุงแร่เฮียฮง ไม้สักขนาดคนโอบไม่มิดเรียงเป็นตับ มุงด้วยหลังคาสังกะสี เสาแต่ละต้นสูงสัก 20 เมตร ส่วนเดินนับกับประเสริฐ

          “นับได้เสาไม้สัก 35 ต้น ขนาดโตเส้นรอบวงราวๆ 200 ซม.ได้มังครับ”  ส่วนตะโกนมาลอยๆ

          “คานไม้สักเสากลมขนาดคนโอบอีก 42 ต้น ต้นหนึ่งยาวราวๆ 12 เมตร ครับ” ประเสริฐรายงานบ้าง

          “พี่ จะจับหรือ ?” สมขายถาม

          “จับอะไร  เป็นโรงเรือนอย่างนี้แล้ว มันเป็นสิ่งก่อสร้าง จับก็หลุด 1,000 % “ มณีตอบค่อยๆ พอได้ยินกันทั่ว

         “ไปกลับ” มณีสั่ง

          ทุกคนนั่งมาด้วยความสลดใจ นึกไม่ถึงว่า เมื่อสองเดือนก่อนยังเป็นลานโล่งๆ แต่คืนนี้เป็นโรงเรือนทั้งใหญ่ทั้งกว้าง อล่างฉ่าง รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น

          “งานนี้ ผมว่าต้องมีคนรับทรัพย์แน่ๆ” สมชายพูดไปหัวเราะไป

          “พวกเราก็ไม่ได้เข้าเส้นนี้เลยนี่ มัวแต่ไปไหนกันนะ” ประเสริฐผสมโรงกระทบชิ่ง

           มณีนั่งนิ่งจมอยู่ในความคิด ๆ ว่าทำไมพี่ชัยชวนเข้ามาที่เหมือง มาเพื่อจะให้มาดูลานโล่งๆ อย่างนั้นละหรือ? พี่ชัยกระซิบอะไรกับคนงานเฝ้าของเฮียฮง? กลับถึงสำนัก หมดเหล้าไปอีกกลม มณียังนั่งมองดูน้องๆ กินด้วยความซึมเศร้า คิดไม่ตก คืนนั้นกว่าจะหลับตาลงได้ก็ปาเข้าไปตีสามกว่าๆ

            เช้าตรู่ มณีเข้าสำนักงานแล้วให้วิทยุไปเชิญสายตรวจป้องกันรักษาป่ามาพบ พี่ชัยนำคณะเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทุกคนเดินก้มหน้าเข้ามานั่งลงล้อมโต๊ะมณี ๆ นั่งมองหน้าทีละคนๆ ด้วยสายตาเรียบเฉย  แล้วพูดขึ้น

           “เมื่อคืนนี้ ผมออกตรวจและเข้าไปที่เหมืองเฮียฮง” ทุกคนหน้าถอดสี แต่ก็นั่งนิ่ง มณีพูดต่อ

           “ผมพบว่าลานโล่งๆ ของเฮียฮงในวันที่พี่ชัยพาผมเข้าไปดู เมื่อคืนนี้มีโรงเรือนเสายักษ์ทะมึนทึนครับ” 

           มณีนิ่งแล้วมองหน้าทีละคน บางคนก้มหน้า บางคนมองเพดาน

          “บอกผมได้ไหมว่า เรื่องนี้ทำไมผมไม่ทราบมาก่อนเลย นี่มีผู้หวังดีมากระซิบบอก ผมถึงได้เข้าไปเมื่อคืนนี้”

            สายตรวจก้มหน้าหลบสายตากันเป็นทีม พี่ชัยตาละห้อย มณีมองสบตาก็หลบ

           “งานนี้รับกันมาเท่าไรครับ”

           มณียิงตูม ทุกคนก้มหน้าต่ำลงไปอีก พี่ชัยตาละห้อยตอบแบบลอยๆ

           “สองหมื่นครับหัวหน้า” มณีจ้องเขม็ง

           “สองหมื่น พวกพี่ ซี 4-6 รวม 6 คน คนขับรถอีกคน  มันจะคุ้มไหมครับพี่”  มณีเสียงเข้ม จ้องเขม็ง

           “นี่ดีนะครับที่ผู้หวังดีมากระซิบผม ไม่เขียนบัตรสนเท่ห์ไปยังหน่วยเหนือหรือที่ ปปป. คงเพราะว่า เขาก็ได้กระทำผิดอยู่ด้วย ไม่งั้นได้เจ็บกันระนาว” มณีมีสีหน้าหมองใจ ถอนหายใจแล้วได้แต่ส่ายหน้า

            “ตอนนี้มันเป็นสิ่งก่อสร้างไปแล้ว ผมก็คงทำอะไรไม่ได้ ขอบคุณนะครับที่ยอมรับความจริง”

            มณีอนุญาตให้ทุกคนกลับไปได้ ทุกคนยกมือไหว้ลาด้วยสีหน้าแววตาสะเทือนใจ มณีได้แต่เอามือแตะไหล่แผ่วๆ พร้อมกับส่ายหน้าไหวๆ  ภายหลัง มณีได้รับฟังจากเพื่อนที่จังหวัดเล่าว่า คืนที่เข้าไปดูโรงเรือนเฮียฮงนั้น เฮียฮงขับรถตามออกมาที่ทางออกบ้านห้วยสาลี่

            “คืนนั้น ผมจะยิงด้วยเอ็ม 16 เสียแล้ว ดีนะที่ผมยั้งใจไว้ได้ มันเป็นโรงเรือนไปแล้วจะมาจับอะไรผมได้ ฮ่ะๆ”

             เพื่อนที่จังหวัดเล่าให้ฟังหลังจากเหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้ว คิดแล้วเศร้า!! ที่เกือบจะตายเพราะลูกน้องแอบไปกระทำการอันไม่ถูกต้องและเหมาะสม 

              การไม่หมั่นตรวจตราการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอก็อาจจะเปิดช่องให้กับเจ้าหน้าที่ที่หลงผิดคิดมิชอบได้ง่ายๆ 

              ความทดท้อใจในความไม่ยุติธรรมก็อาจทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้อีก การรับราชการจึงต้องหนักแน่นแม้นผิดหวัง ก็ต้องทำไปตามหน้าที่เสมอๆ

Tags : เสือกลิ่นสาบ Forester lifes Tigerline

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view