http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,001,628
Page Views16,310,420
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

มหัศจรรย์กัมพูชา: ตอน 3. ปราสาทตาพรม ต้นสะปงยักษ์อลังการ โดยอึ้งเข่งสุง-เรื่อง ธงชัย เปาอินทร์-ภาพ

มหัศจรรย์กัมพูชา: ตอน 3. ปราสาทตาพรม  ต้นสะปงยักษ์อลังการ  โดยอึ้งเข่งสุง-เรื่อง ธงชัย เปาอินทร์-ภาพ

 

                             มหัศจรรย์กัมพูชา: ตอน 3. ปราสาทตาพรม  ต้นสะปงยักษ์อลังการ 

                                                                                           โดยอึ้งเข่งสุง-เรื่อง ธงชัย เปาอินทร์-ภาพ

  

                 ถ้าความงดงามของปราสาทหินทรายสีชมพูที่ชื่อว่า "บันทายศรี" เปรียบประดุจไข่มุกแห่งกัมพูชา ปราสาทตาพรมที่หาความงดงามในรูปลักษณ์นำไปเปรียบเทียบมิได้เลยนั้น กลับยิ่งใหญ่ในความงดงามขององค์ราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่ ชัยวรมันที่ 7 พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชานั่นคือ ความกตัญญูรู้คุณบิดรมารดา ปราสาทแห่งนี้ เป็นเครื่องสำแดงมุทิตาจิตยิ่งใหญ่ เพื่อถวายแด่พระราชมารดาของพระองค์ ผู้มีพระนามว่า "พระนางชัยราชจุฑามณี" 

                    

 

                 แต่นักท่องเที่ยวทั่วโลกกลับสนใจปราสาทตาพรมเพียงต้นสะปงยักษ์ที่ขึ้นปกคลุมปราสาทแห่งนี้มานานกว่า 500 ปี กลายเป็นจุดขายการท่องเที่ยวสำคัญ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ ภาพยนต์เรื่อง Tomb Raider ซึ่งนำแสดงโดย Angelina Jolie  ในบทบาทของ Lara Croft นักผจญภัยสาวที่โลดแล่นผ่านฉากที่ปราสาทตาพรม นั่นคือการโฆษณาที่แพงและได้ผลที่สุด ที่ทำให้การท่องเที่ยวประเทศกัมพูชาโด่งดังยิ่งขึ้น มันคือการกระตุ้นต่อมความอยากรู้อยากเห็นชั้นเยี่ยม

                      พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ครองราชย์ระหว่างปีพ.ศ. 1724-1761 ทรงย้ายราชธานีจากปราสาทปาปวนมายังปราสาทนครธม และในปีแรก (ปีพ.ศ.1724) แห่งการครองราชย์พระองค์ทรงสร้างปราสาทพระขรรค์ ถวายแด่พระราชบิดาของพระองค์ (พระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 2) ถัดมาอีก 5 ปี(พ.ศ.1729) ทรงสร้างปราสาทตาพรมถวายแด่พระราชมารดา รูปแบบศิลปะบายน ที่ท่านกำลังได้ชมอยู่นี้              

                             

                                                                        ภายในกำแพงชั้นที่หนึ่ง                  

                     เดิมเรียกว่า  ราชวิหาร  สร้างขึ้นในพุทธศาสนา นิกายมหายาน พร้อมกันนี้ได้ถวายหมู่บ้าน 3,140 หมู่บ้าน ประชากร 79,365 คน ข้าวัด 12,640 คน เป็นศรัทธาบูชา  วัดราชวิหารมีพระผู้ใหญ่ 18 รูป พระระดับรองๆ 2,740 รูป สามเณรอีก 2,232 รูป นอกจากนี้ พระองค์ยังถวายทรัพย์สินมีค่ามากมายเหลือคณานับ อาทิเช่น จานทองคำหนัก 500 กก. เครื่องเงินหนัก 500 กก. เพชร 35 เม็ด ไข่มุก 40,620 เม็ด หินมีค่า 4,540 เม็ด  

                               

                                                                       มาดเขาละ ผอ.ไกรลาศ

                  แค่นั้นยังไม่พอ พระองค์ทรงถวายผ้าบางคลุมหน้าจากประเทศจีน 876 ผืน เตียงคลุมด้วยผ้าไหม 512 เตียง  ร่ม 523 คัน เสื้อผ้าคลุมรูปปั้น 2,387 ชุด  นม เนย น้ำผึ้ง  การบูร  น้ำอ้อย  ไม้จันท์ เพียบ  ด้วยมูลเหตุแห่งความฟุ่มเฟือยจนเกินไปเช่นนี้กระมังจึงทำให้อาณาจักรกัมพูชาที่เคยรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ถดถอยด้อยลงเรื่อยๆ เมื่อมีสิ่งก่อสร้างมากมาย ประชาชนย่อมต้องได้รับความทุกข์ยากมากขึ้น ด้วยว่าเป็นเพียงเบื้องยุคลบาท หรือว่าทาสที่ถูกใช้ให้ทำงานนั่นเอง   

                  กลับมาที่การท่องเที่ยวปราสาทตาพรม ช่วงเวลาที่เดินทางไปนั้น สายมากแล้ว แต่เมื่อลงจากรถทัวร์ ต้องเดินทางเข้าไปตามถนนลูกรังสีแดง  ภาพแรกที่ได้พบเห็นเป็น ชาวนาชาวกัมพูชากำลังถอนต้นกล้าข้าว แล้วสลัดดินโคลนออก มัดเข้าด้วยกันเป็นกำๆ แล้ววางเรียงๆกันไว้เพื่อนำไปใช้ในการดำนาต่อไป ภาพถัดไปเป็นบ้านเรือนของชาวกัมพูชา ที่มีส่วนละม้ายคล้ายบ้านเรือนของชาวไทยอยู่อย่างหนึ่งคือ บ้านชั้นเดียวใต้ถุนสูง ส่วนรูปทรงแตกต่างอยู่นิดๆ 

                  เดินเลยไปอีกนิดพบกับวงศ์ดุริยางย์พื้นบ้าน แต่วันนี้แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดสวยสีแดงแปร๊ด กำลังนั่งบรรเลงเพลงเขมรไทรโยค(ล้อเล่น) เครื่องดนตรีที่กำลังบรรเลงเหมือนระนาดบ้านเราเด๊ะ  ฟังท่วงทำนองเพลงละม้ายคล้ายกันมากๆ ภาษาเท่านั้นน่าจะแตกต่างออกไป   สองข้างทางมีแมกไม้ขึ้นอยู่ พบสิ่งก่อสร้างแรกเป็น อโรคยาศาล รูปแบบที่พระเจ้าชัยวรมันได้ทรงสร้างไว้ทั่วอาณาจักร 

                                                        ช็อตเด็ดจริงๆ...สองหนูน้อยน่ารัก  มาจากไหน 

                  พลันสายตาเหลือบไปเห็นอะไรเคลื่อนไหวอยู่กลางอากาศ เหลียวขวับไปดู เป็นเด็กหญิงน้อยๆน่ารักมากๆ สองคนปีนอยู่บนเถาวัลย์ที่ห้อยลงมาจากต้นไม้ขนาดใหญ่ ผิวขาวนวลเนียน ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย น่ารักซะไม่มี เป็นภาพความนารักที่หาดูได้ยากมากในแผ่นดินกัมพูชา แล้วใครกันหรือไปสั่งให้เธอทั้งสองมาห้อยโหนเช่นภาพที่เห็น หรือว่าเธออาศัยอยู่แถวๆนี้ แล้วไม่มีอะไรทำ หรือไม่ได้เรียนหนังสือ หรือว่ายังเด็กเกินเข้าโรงเรียน สื่อสารกันก็ไม่ได้เสียด้วย

                          

                 ผ่านเลยไปเป็นต้นไม้ใหญ่แผ่รากกว้างขวางอยู่หน้าปราสาทตาพรม เพื่อนผมยืนแอ๊คท่าให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เบื้องหน้าของปราสาทตาพรมที่เห็นต้นสะปงยักษ์โผล่พ้นเหนือปราสาท ด้วยความซุกซนเกินกว่าคนแก่ทั่วๆไป ตัดสินใจเดินหลบขึ้นไปทางใต้ของปราสาท มีภาพจำหลักแปลกตาอยู่ตามผนังปราสาท  หลังจากนั้นก็เดินผ่านโคปุระแรกเข้าไปชมสิ่งมหัศจรรย์ของปราสาทตาพรมสู่ปรางค์ประธาน 

                    ภาพสลักเสลาหินทรายส่วนใหญ่เป็นภาพพุทธประวัติเช่น พระแม่ธรณีบีบมวยผม  ขับไล่เหล่ามารให้พ้นไปจากพระศาสดาก่อนการบรรลุโสดาบัน  หน้าบันของบรรณาลัยทางซ้ายมือ เป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณมีมาลัยประดับประดาเสียด้วย ที่ไหนๆในกัมพูชาถ้าภาพแกะสลักไม่มีภาพนารายณ์บรรทมสินธุ์ละก้อ ไม่ใช่กัมพูชาแน่นอน ที่ปราสาทตาพรมก็มีมาอวดเหมือนกัน ส่วนความสวยงามของการแกะสลักหินทรายไม่โดดเด่น 

                     มีเรื่องน่สะเทือนใจเมื่อพระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ทรงครองราชย์ ได้มีการสกัดเอาเรื่องราวในพุทธประวัติลัทธิมหายานออก แล้วแต่งแต้มรูปลักาณ์ของศาสนาฮินดูเข้าไป(ศิวลึงค์) ทดแทน ภาพเรื่องราวบางส่วนจึงหายไป  

                      แต่อย่างไรก็ตาม หลังโคปุระชั้นสาม มีหน้าบันถัดปรางค์ประธานเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับรามเกียรติ์อันเป็นตอนพระราม พระลักษณ์ และนางสีดาถูกขับไล่ออกจากเมือง  โดยพระรามทรงม้า ไพร่ฟ้าประชาชนแห่แหนกันออกมาส่ง  แต่ที่กรอบประตูด้านทิศตะวันตกมีภาพสลักเสลาคล้ายๆว่าจะเป็น "ไดโนเสาร์" อยู่ด้วย 1 ตัว หรือว่ากิ้งก่ายักษ์?

                     

                                                   พระรามพระลักษณ์และนางสีดากำลังออกจากเมือง

                    ภาพที่น่าสนใจมากอีกภาพคือกำแพงปราสาทตาพรม ซึ่งก็สลักเสลาหินทรายให้เป็นรูปนางอัปสราเช่นเดียวกับทุกปราสาท แต่นางอัปสราที่ปราสาทตาพรมแห่งนี้ มีมุ่นมวยผมเป็นสามัญชน ไม่มีเครื่องเคราอย่างนางอัปสราชั้นสูงแต่อย่างใด ส่วนนางอัปสราอนงค์นี้จะดูอวบอึ๋มกว่าปราสาทอื่นๆหรือไม่นั้น ยากจะเปรียบเปรย  อย่างไรก็ตาม มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ปราสาทอยู่วุ่นวาย เพื่อคงความเก่าและความยิ่งใหญ่เอาไว้ให้เป็นสมบัติของอนุชนรุ่นหลัง 

                    

                                                                             นางอัปสราอวบอึ๋ม

                     ก่อนเดินลัดออกทางด้านหลังปราสาทตาพรม ได้เห็นความพยายามที่จะรั้งต้นสะปงยักษ์(สำโรง) เอาไว้ด้วยสลิงขนาดใหญ่  ได้เห็นกรอบเครื่องไม้เพื่อขึ้นไปทำงานการบูรณะ ได้เห็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งยืนฟังเรื่องราวที่ขายกันได้แม้แต่ "หลุมยาง" ต้นยางนาขนาดใหญ่ที่หลงเหลืออยู่  อันเป็นวัฒนธรรมหนึ่งของการเก็บหาของป่ามาใช้ประโยชน์ แต่เมื่อเดินออกทางทิศตะวันตกของปราสาทตาพรม ก็ได้เห็นสัญลักษณ์ของปรางค์องค์หนึ่งเป็นศิลปะแบบบายน มีรูปหน้าพระอวตาลโลกิเตศวร 4 หน้า อย่างจัง

                        

                                                            ต้นสะปงยักษ์ที่ได้รับความนิยมถ่ายรูปด้วย

                    แต่หลังจากนั้นก็ได้พบกับขบวนแม่ค้า พ่อค้า และเด็กๆนักค้าของฝาก ของที่ระลึก ของใช้ และได้เห็นความมานะพยายามที่จะ "ขาย" หรือว่าวิญญาณนักขายในเยาวชนคนกัมพูชานั้น ฝังลึกมาแต่อดีตอันยาวนาน สิ่งที่เห็นเขาขายนั้น แท้ที่จริงน่าซื้อหามาเก็บไว้เป็นของที่ระลึกไม่น้อย บางอย่างนำมาใช้ได้เช่นผ้าพาดไหล่ไหมแท้ๆ รูปหน้าพระเจ้าชัยวรมันเพื่อตั้งบูชาในชั้นวางพระเครื่องในบ้าน 

                     

                                                                    ต้นไม้ป่ากำลังขอคืนพื้นที่

                    อย่างไรก็ตาม การไปท่องเที่ยวปราสาทตาพรมก็ได้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอยู่สามอย่างคือ ได้เห็นความกตัญญูรู้คุณพระมารดา ได้เห็นความเสื่อมอันเนื่องมาจากความศรัทธา และได้เห็นความพยายามที่จะอนุรักษ์ทรัพยากรท่องเที่ยว "ต้นสะปงยักษ์" เอาไว้ในรูปแบบเดิมๆ อันเป็นภาพที่ขายการท่องเที่ยวไปแล้วทั่วโลก โดยแองเจลิน่า โจลี่ "TOMB RAIDER" กับปราสาทตาพรม .....ไปมาแล้ว...เฮเฮ!!   

                    

                                                                             รากของสะปงยักษ์

Tags : มหัศจรรย์กัมพูชา outbound เขมร อึ้งเข่งสุง ธงชัย เปาอินทร์

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view