หน้าแรก
เว็บบอร์ด
บทความ
รวมรูปภาพ
ติดต่อเรา
ข่าวสาร
มหัศจรรย์กัมพูชา ตอน 5. อลังการนครวัด Angkor wat
โดยอึ้งเข่งสุง-เรื่อง//ภาพ-ธงชัย เปาอินทร์
นครวัดเป็นสิ่งก่อสร้างสุดยอดมหัศจรรย์ของกัมพูชาทั้งยิ่งใหญ่อลังการและปราณีต
บรรจง มันน่าฉงนว่า ใครเป็นผู้สร้าง ต้องใช้คนและเวลามากมายเพียงใด แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใด เขาสร้างขึ้นมาเพื่ออะไรกันหรือ
ด้วยว่าสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นล้วนสร้างด้วยหินทรายก้อนใหญ่ๆ แค่นั้นยังไม่พอ เขาสลักเสลาหินแกร่งแข็งปั๋งให้มีความอ่อนช้อย และสวยงามได้อย่างไรกัน ดูเหมือนว่ามันจะยากยิ่งกว่าฝนทั่งให้เป็นเข็มด้วยซ้ำไป
นักท่องเที่ยวจากประเทศไทย ชอบมากที่ได้ถ่ายรูปหมู่
คำตอบคือ พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 กษัตริย์ผู้เข้มแข็งและทรงอำนาจเหนือแผ่นดินกัมพูชาเป็นผู้สร้าง พระองค์ได้ชื่อว่าเป็นมหาราชองค์สำคัญของประวัติศาสตร์ชาติกัมพูชาองค์หนึ่ง ประวัติย่อๆของพระองค์คือ พระองค์เป็นราชโอรสของพระเจ้ากษิตินทราทิตย์ กับพระราชมารดา พระนางนเรนทราลัสมี ทรงขึ้นครองราชระหว่างปีพ.ศ.1656-1693 ทรงครองราชย์นานถึง 37 ปี พระเจ้าแผ่นดินกัมพูชาองค์ก่อนคือพระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 1 และพระเจ้าแผ่นดินต่อจากพระองค์คือพระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 2 ด้วยว่าพระองค์ทรงได้รับชัยชนะจึงได้สิทธิการขึ้นครองราชย์
มุมนิยมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกถึงปราสาทนครวัด
จะเห็นได้ว่าพระเจ้าแผ่นดินของกัมพูชานั้นมีทั้งสืบสายโลหิตและไม่ได้สืบสายโลหิต พระเจ้าแผ่นดินองค์ใดเข้มแข็งกว่าก็ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินได้ เรียกว่ามีบารมีมากจนเหยียบเมืองได้ เช่นเดียวกับการขึ้นครองราชของพระเจ้าแผ่นดินสยาม ก็คล้ายคลึงกัน ผู้ใดเข้มแข็งกว่าก็ปีนป่ายขึ้นไปปราบดาภิเษกได้ คนชนะเขียนประวัติศาสตร์นั่นเอง
พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ไม่ได้สืบสายโลหิตพระเจ้าแผ่นดินองค์ก่อน(พระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 1) และพระเจ้าแผ่นดินองค์ต่อจากพระองค์ก็ไม่ได้สืบสายโลหิตพระเจ้าสุริยวรมันที่2 หากแต่เป็นพระเจ้าธรณินทรวรมันที่ 2 คร่อมกันไปได้ด้วยฤทธี
พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 สร้างนครวัดเพื่อเป็นศาสนสถานประจำพระองค์ ทรงปรับลัทธิบูชาพระวิษณุ และพระนารายณ์ จนกลายเป็นลัทธิไวษณพนิกาย(บางทีเขียนด้วยตัว น) เป็นศิลปะนครวัดหรือปาปวน เรื่องแปลกแต่จริงปราสาทนครวัดเป็นปราสาทองค์เดียวที่หันหน้าปราสาทไปทางทิศตะวันตก มีพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 1,300 เมตร ยาว 1,500 เมตร ล้อมรอบด้วยคูน้ำกว้าง 200 เมตร องค์ปราสาทมีฐานกว้าง 80 เมตร ยาว 100 เมตร ปราสาทนครวัดมีปรางค์ถึง 9 ยอด แต่ได้เกิดชำรุดทรุดโทรมไปบ้าง ทุกวันนี้เหลือปรางค์อยู่เพียง 5 ยอด โดยมีพระปรางค์องค์กลางสูง 60 เมตร
คูน้ำรอบปราสาท สนามหญ้าในปราสาท
ปราสาทนครวัดใช้เสาหนักต้นละ 10 ตัน จำนวน 1,800 ต้น ใช้ช้างขนถ่ายหินทรายจากพนมกุเลนซึ่งห่างจากนครวัด 50 กิโลเมตรจำนวน 40,000 เชือก หินที่ก่อสร้างทั้งหมด 600,000 ลูกบาศก์เมตร แรงงานกว่า 100,000 คน เป็นช่างฝีมือแกะสลักจำนวน 5,000 คน สลักเสลานางอัปสราลีลาต่างๆกันถึง1,635 นาง แต่ละนางก็แต่ละลีลา เช่นรูปนางอัปสรายิ้มจนเห็นฟัน นางอัปสราลิ้นสองแฉกก็มี และมีรูปนางอัปรานุ่งมินิสะเกิ้ต แล้วแต่อารมณ์ศิลปินของช่างที่สลักเสลาจะเสกสรรค์ปั้นแต่งขึ้น เหมือนๆภาพอิโรติกที่ปรากฎอยู่ตามปราสาทต่างๆ
ไกด์..ต้องชูธงนำทาง
ช่วงที่เดินชมปราสาทชั้นล่างๆก็เดินได้สบายๆ แต่ถ้าคิดจะปีนขึ้นไปให้ถึงปรางค์ประธานละก้อคิดหนัก เพราะว่าขั้นบันไดชันมากๆ ถึงขนาดคลานขึ้นกันทีเดียว ส่วนขาลงก็ต้องค่อยๆย่องลงทีละขั้นๆ พลาดละก้อกลิ้งโค่โล่
เพื่อนผม ผอ.ไกรลาศ เทพสัมฤทธิ์พร ปีนขึ้นไปกับเขาด้วย พอลงมาเท่านั้นพิการไปเลย เดินขาเขย่งไปข้างหนึ่ง เพราะว่าทั้งขาขึ้นและขาลงเกร็งมากๆ นั่นเอง
พระสงฆ์ก็นิยมมาท่องเที่ยว
ปราสาทนครวัดมีภาพแกะสลักหินแบบนูนต่ำมากมายเหลือกำลังจะนับ โดยสรุปเป็นภาพแกะสลักเกี่ยวกับ 8 เรื่องด้วยกันคือ เรื่องมหาภารตะยุทธ เรื่องกระบวนทัพพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เรื่องนรกสวรรค์ในชาดก เรื่องการกวนเกษียรสมุทร พระวิษณุรบอสูร เรื่องพระวิษณุปราบท้าวพาณอสูร เรื่องเทวาสุรสงคราม เรื่องรามเกียรติ์ การจำแนกภาพสลักนูนต่ำเหล่านี้ ไกด์กัมพูชาอธิบายได้อย่างดี แต่ถ้าต้องเดินดูด้วยตนเองละก้อ เหนื่อยหน่อย ด้วยว่าภาพที่สลักเสลาดูๆแล้วก็ชวนสับสน น่าจะต้องใช้เวลาในการชมมากกว่าไปกับทัวร์ครับ
เหล่านางอัปสรา.ล้วนสลักเสลาได้สวยงาม
จากภาพสลักนูนต่ำที่นครวัดนี้ ทำให้กังขาว่า ตามหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทยอ้างว่า คนไทถอยร่นลงมาจากจีนตอนใต้(หนีกุบไลข่านมาจากเทือกเขาอัลไต) แล้วมาตั้งหลักปักฐานที่กรุงสุโขทัย พ.ศ.1781 ซึ่งเป็นราชธานีแห่งแรกของคนไท ที่น่าสงสัยคือ กลับมีภาพสยามกุกปรากฎที่ภาพสลักนูนต่ำอยู่ในนครวัด ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.1656 อันเป็นการบ่งชี้ว่า มีกองทัพจากเมืองละโว้ สลักชื่อผู้นำทัพว่าชื่อเจ้าชายสิงหวรมัน บนหลังช้าง และยังมีภาพสลักนูนต่ำที่ติดตามกระบวนทัพของทัพละโว้ว่าเป็นทัพสยามกุก(เนะ สยำกุก=นี่แหละกองทัพสยาม)
จึงมีข้อสังเกตว่า มีภาพนูนต่ำก่อนตั้งกรุงสุโขทัยถึง 125 ปี ได้อย่างไร คนไทน่าจะไม่ได้อพยพหนีกุบไลข่านมาจากเทือกเขาอัลไตเป็นแน่แท้
ร่อยรอยแห่งพุทธมหายาน แสงเงาจากลูกมะหวด
พระเจ้าสุริยวรมันที่2 เป็นกษัตริย์ที่ทรงเข้มแข็งมาก ปราบปรามและขยายแผ่นดินได้อย่างกว้างขวางกว่าพระเจ้าแผ่นดินพระองค์อื่นๆ นอกจากสร้างปราสาทนครวัดแล้วยังทรงเป็นผู้สร้างปราสาทบึงมาลา ปราสาทพิธู ปราสาทเจ้าสายเทวดา ปราสาทบันทายสำเหร่ ปราสาทธัมมานน และปราสาทวัดภูในประเทศลาว
ภาพสลักนูนต่ำ ละเอียดละอออ้อล้อจริงๆ
ผมเป็นนักท่องเที่ยวประเภทเห็นอะไรก็จับมายำรวมกันได้ ในการเดินตามๆกันไปในนครวัดก็เช่นกัน เดินไปก็เก็บความจากไกด์ และถ่ายรูปตามความคิดที่แตกแยก เรียกว่าต่างมุมมอง และคล้อยตามในบางกรณี เรื่องจริงเลยขอบอก ถ่ายรูปยากมากๆ เพราะว่าการสลักหินนูนต่ำทำให้เห็นไม่ชัดมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ชำนาญการหรือไปจนจดจำได้ว่าภาพใดเป็นเรื่องอะไร ก็คงจะสนุกสนานไม่น้อย ได้ไปแล้วก็ไม่เสียดายเงินเลย กลับภูมิๆใจเสียอีกว่า ได้ไปมาแล้ว
หลังจากพระเจ้าสุริยวรมันที่2 สวรรณคต ปราสาทนครวัดก็ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ มีหลายส่วนที่สร้างทิ้งไว้ แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีการบูรณะปราสาทแห่งนี้อยู่หลายช่วง จึงยังเป็นปราสาทที่ดูแล้วมีความสมบูรณ์มากที่สุด มีเรื่องราวมากที่สุด มีการจารึกในหลักศิลาและมีการสัณนิษฐานกันว่า ปราสาทนครวัดนั้นคล้ายคลึงกับปราสาทพิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งปราสาทพิมายนี้หันหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองเสียมเรียบ หรือเสียมราฐ
นักเลงชนไก่ วัฒนธรรมหนึ่งยามว่าง
บนความยิ่งใหญ่อลังการของปราสาทนครวัด(นอกอวัด-นครวัด-อังกอร์วัด) ได้ไปเห็นแล้วก็ถือว่าเป็นบุญตาและบุญตัว ก่อนตายควรจะได้ไปชมความยิ่งใหญ่อย่างหาที่ติไม่ได้ ราคาทัวร์ไปจากเมืองไทยไม่ต่างกันนักสำหรับการเดินทางไปทางรถยนต์ แต่ถ้าไปโดยทางเครื่องบินก็น่าจะราคาสูงขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม การเดินทางด้วยรถยนต์จะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวกัมพูชาไปในตัว นั่งไปก็นึกภาพบ้านเมืองของเราเมื่อ 30-40 ปีของบ้านเรา แต่ขอโทษที บ้านเมืองของเขามี 3 G ใช้กันทั่วไปแล้ว เหตุใด หรือว่าใคร ที่มีปัญหามากจนกระทั่งอยากปิดหูปิดตาประชาชน
3G เปิดตาให้สว่างทั้งแผ่นดินได้จริงหรือ (ขอบคุณ Smoth Tour )
หลักฐานที่ปรากฎให้เห็นว่าเป็นสยามกุก
คุณยายขอ..ขวดเปล่า นั่งรอด้วยความอดทน
เดินทัพจับศึก สู้..สู้
พันมือมั่ง