http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,006,593
Page Views16,315,615
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

พม่าไม่ไปไม่รู้ โดยเอื้อยนาง เรื่อง-ภาพ ตอน7.ไหว้พระธาตุมุเตา กินไข่ไดโนเสาร์หงสา

พม่าไม่ไปไม่รู้  โดยเอื้อยนาง  เรื่อง-ภาพ ตอน7.ไหว้พระธาตุมุเตา กินไข่ไดโนเสาร์หงสา

พม่าไม่ไปไม่รู้

 โดยเอื้อยนาง  เรื่อง-ภาพ

ตอน7.ไหว้พระธาตุมุเตา  กินไข่ไดโนเสาร์หงสา

 

              หงสาวดี หรือ พะโค เป็นเมืองศูนย์กลางอันรุ่งเรืองของราชอาณาจักรมอญ มาแต่อดีต  ในสมัยพระเจ้าราชาธิฤทธิ์ (ราชาธิราช) หรือพญาน้อย  ซึ่งตรงกับพม่าในสมัยพระเจ้ามังฆ้องแห่งอังวะได้ทำสงครามขับเคี่ยวกันยาวนาน  ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ  เสียไพร่เสียพลไปไม่น้อยทั้งสองฝ่าย   รบกันจนเหนื่อยก็ทำสัญญาเป็นไมตรีต่อกัน  ส่งเครื่องบรรณาการส่งพระราชธิดาไปเป็นบาทบริจาคของอีกฝ่าย  บางครั้งจับทหารเอก  แม่ทัพคนสำคัญ ๆ ของอีกฝ่ายได้ก็เลี้ยงไว้ให้ตำแหน่ง  ให้เป็นราชบุตรเขยก็มี  บางครั้งคนของฝ่ายนี้คิดกบฏก็หนีไปอยู่กับฝ่ายโน้นก็มี  ความสัมพันธ์ต่อกันจึงเป็นเหมือนพี่น้องทะเลาะเบาะแว้งกันมากกว่า   จนสวรรคตไปทั้งสองพระองค์ ยังรบราต่อจนถึงรุ่นลูกหลาน  กระทั่งสมัยของพระเจ้าบุเรงนองกษัตริย์นักรบผู้ลือนามของพม่า   เมืองหงสาวดีจึงเป็นของพม่าแต่นั้นมา

 

            หงสาวดีมีสิ่งศักสิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง คือพระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอว์  หรือพระธาตุมุเตา ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า ๑,๒๐๐ ปี  สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยมอญเรืองอำนาจ  เป็นสถาปัตยกรรมอันอลังการ ยืนยันถึงความเจริญรุ่งเรืองแห่งราชอาณาจักรมอญที่เคยมีมา  พระเจดีย์ชเวมอดอว์  มีความหมายว่าพระเจ้าทองคำ  แต่คนไทยรู้จักกันในนามพระธาตุมุเตา  มุเตาเป็นภาษามอญ แปลว่าจมูกร้อน  ด้วยว่าพระธาตุเจดีย์นี้มีความใหญ่โตสูงถึง ๑๑๔ เมตร  ทำให้ผู้ที่ไปสักการที่ต้องการมองพระธาตุ ให้เห็นถึงยอดต้องแหงนคอตั้งบ่าฝ่าแสงแดดจนแผดเผาจมูกให้ร้อนนั่นแหละ  แต่ในวันที่เราไปนมัสการพระธาตุนั้นเรากลับแหงนมองแทบไม่ได้เพราะหยาดฝนมากกว่า

 

                                       สามเณรในพม่าพบเห็นได้ง่าย

           ประกอบกับเป็นช่วงที่มีงานประจำปีในวัดพระธาตุมุเตาด้วย  จึงมีผู้คนมากมายมาทำบุญกันเต็มแน่นวิหารที่เรียงรายรอบพระธาตุเจดีย์  แสดงถึงความศรัทธาที่ไม่เคยเสื่อมคลาย  ผ่านมากี่ยุคสมัย  ใครเป็นผู้ปกครอง อย่างไร  แต่ชาวบ้านชาวเมืองก็ยังมีพระธาตุเป็นที่ยึดเหนี่ยว  เป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจ  พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ที่เหยียบย่างเข้าหงสาวดี  จะต้องมากราบไหว้ถวายเครื่องสักการบูชาขอพรจากพระธาตุมุเตา

 

           ในเรื่องราชาธิราช(พงศาวดารมอญ)  กล่าวถึงเจ้าชายโอรสของพระเจ้าราชาธิราชนามเจ้าลาวแก่นท้าวเมื่อจะถูกประหารชีวิตเพราะทำผิดต่อพระราชบิดาจนถูกนำไปประหารนั้น  เจ้าชายผู้โกรธแค้นแน่นอกได้ขอเวลาจากเพฌฆาต  ขอไปไหว้พระธาตุมุเตาเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต  และได้ถวายพระมาลาที่ทรงมาบูชาพระธาตุแล้วกล่าวคำอธิฐานว่า  ชาติหน้าขอไปเกิดในเมืองพม่าจะได้กลับมาแก้แค้นพระราชบิดา  และต่อมาพระมเหสีของพระเจ้ามังฆ้องประสูติพระราชโอรส   ต่างเชื่อกันว่าเป็นเจ้าชายจากหงสาวดีไปเกิดตามคำอธิษฐาน

 

           ในสมัยที่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้  ขณะยังเป็นพระยุวราชหนุ่มน้อยเพิ่งทำพิธีเจาะพระกรรณตามประเพณี  ทรงพาทหารกล้า ๕๐๐ คน ฝ่าดง ศัตรู(มอญ)เข้ามาทำพิธีที่พระธาตุมุเตาอย่างกล้าหาญ นั่นก็ด้วยความศรัทธาไม่ว่าเป็นพม่าหรือมอญหรือเผ่าชนใด ๆ ในดินแดนนี้ 

นักท่องเที่ยวจากประเทศไทย

           ตำนานของพระธาตุมุเตาที่เล่ากันมายังมีเกี่ยวข้องกับคนกรุงศรีอยุธยาในสมัยบุเรงนองได้กวาดต้อนครอบครัวราชวงศ์อยุธยามาเป็นเชลย ณ กรุงหงสาวดีแห่งนี้  ครั้งนั้นมีสมเด็จพระนเรศวรเจ้าชายวีระบุรุษของกรุงศรีอยุธยาด้วย  พระองค์มีความเคารพเลื่อมใสพระธาตุมุเตา  แม้เมื่อกลับสู่บ้านเมืองกอบกู้เอกราชแล้วเมื่อยกทัพมาพม่ายังได้ตั้งพลับพลาทีประทับใกล้ ๆ เพื่อจะมากราบไหว้พระธาตุมุเตาได้โดยสะดวก

 

           พระธาตุมุเตาได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์มาหลายยุคสมัย  และครั้งใหญ่คือเมื่อมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวในพม่าเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๓  ส่งผลให้พระธาตุเจดีย์นี้หักพังลงมาจึงได้มีการปฏิสังขรณ์ใหม่ และแล้วเสร็จในปี พ.ศ.  ๒๔๙๗  ทางวัดได้นำพระธาตุองค์เดิมมาตั้งไว้บริเวณลานทางด้านทิศเหนือของพระธาตุองค์ใหม่  เป็นจุดที่ผู้ศรัทธามากราบไหว้ขอพร ขอความเจริญมั่นคงให้ชีวิต

 

           องค์พระธาตุปัจจุบัน เด่นเป็นสง่าอยู่บนลานกว้างมีมณฑปเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปเป็นระยะ ๆ รายรอบพระมหาเจดีย์

           หงสาวดีเมืองแห่งประวัติศาสตร์  เมืองแห่งพระพุทธศาสนายังมีสถานที่สำคัญอีก

หลายแห่งที่ผู้คนนักท่องเที่ยวนิยมไปเยือน  แต่สำหรับคณะเราวันนี้มีจุดหมายจะไปค้างคืนที่พระธาตุอินทร์แขวน  ออกจากพระธาตุมุเตาแล้วเราแวะทานอาหารกลางวันก่อน

 

พุทธศาสนิกชนคนพม่า

           คุณติ๊กเธอบอกว่าเมนูเด็ดอยากให้เราได้ชิม คือ ไข่ไดโนเสาร์  ทำเอาหลายคนร้องโห...เมื่อไหร่จะถึงภัตตาคารสักที  อยากชิมไข่ไดโนเสาร์ แต่จริง ๆ แล้ว  อาหารที่น่ากินที่สุดของที่นี่คือกุ้งยักษ์จากแม่น้ำอิรวดีต่างหาก 

 กุ้งที่คนจนในพม่าเขากินกัน

           แต่คุณติ๊กเธอกกลับว่า  ชาวพม่านั้นคนจน ๆ จะได้กินกุ้ง หอย ปู ปลา  ส่วนคนรวยก็จะกินหมูเห็ดเป็ดไก่  เห็นกุ้งยักษ์อิรวดีแล้วเราก็ขอเป็นคนจนดีกว่า  ปล่อยให้คนรวยเขากินไข่ไดโนเสาร์  ซึ่งก็คือไข่เป็ด  หรือไข่ไก่เจียวทำเป็นรูปกลมนูน(เขาทำได้อย่างไรไม่รู้)เสิร์ฟมาในจานเขื่องชนิดไดโนเสาร์มาเห็นก็คงยิ้มละ

QQQQ

  

 

 

 

 

 

 

   

Tags : พม่าไม่ไปไม่รู้ กิ่งคำปายกับยายทวด หลงกลิ่นอยุธยา

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view