http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,058,585
Page Views16,369,464
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ค่ายบางกุ้งมีอยู่จริงหรือไม่ แต่วัดบางกุ้งมีแน่ โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ค่ายบางกุ้งมีอยู่จริงหรือไม่ แต่วัดบางกุ้งมีแน่ โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ค่ายบางกุ้งมีอยู่จริงหรือไม่ แต่วัดบางกุ้งมีแน่

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง/ภาพ

            แม้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะพยายามโปรโมทว่า Unseen วัดบางกุ้ง โบสถ์ปรกโพธิ์ เพียงใดก็ตาม บอกได้เลยว่า นักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยววัดบางกุ้งโดยเฉพาะโบสถ์ปรกโพธิ์ เกิดแต่การไปท่องเที่ยวตลาดน้ำยามเย็นอัมพวาเสียมากกว่า ที่มุ่งตรงเพื่อไปเที่ยววัดบางกุ้งนั้นน้อยเต็มที เหมือนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำรอง หรือเสริมอ็อฟชั่นก่อนเวลาก็ว่าได้

            ทั้งๆที่ วัดบางกุ้งมีเรื่องเล่ามากมายหลายแง่มุม

         

            แรกทีเดียวที่ผมเคยไปวัดบางกุ้งก็ด้วยว่าไปทำการประชาสัมพันธ์ตลาดน้ำยามค่ำอัมพวาโดยร่วมไปกับสื่อมวลชนกลุ่มหนึ่ง แล้วมีเวลาเหลืออยู่ก็เลยลงมติกันว่าจะไปที่ไหนกันดี ได้ความคิดจากข้อเสนอของสื่อทีวีช่อง 11 ว่า ไปไหว้พระในโบสถ์ปรกโพธิ์ปรกไทรวัดบางกุ้งก็แล้วกัน นั่นแหละผมจึงได้ไปเห็นเป็นครั้งแรก Unseen จริงๆเสียด้วย

            แต่เมื่อไปถึงแล้ว ผมกลับไปสนใจรูปปูนปั้นหมัดมวยหลายกระบวนท่าเสียมากกว่า ผมเดินไปถ่ายรูปลีลาท่าต้นแบบมวยไทย จนได้เรื่องและรูปมาเก็บเอาไว้ แล้วก็เดินกลับไปถ่ายรูปโบสถ์ปรกโพธิ์ที่ชักชวนกันมา เพื่อนสื่อกำลังไหว้พระประธานอยู่บ้าง ถ่ายรูปอยู่รอบๆวัดบ้าง ผมเห็นเช่นนั้นก็ปรี่เข้าไปถ่ายรูปกับเขาด้วย เป็นโรดโชว์ไปทีเดียว

            มีนักท่องเที่ยวมากราบไหว้และถ่ายรูปอยุ่สามจุดคือ ไหว้ที่หน้าโบสก์ปรกโพธิ์ ไหว้ในโบสถ์ปรกโพธิ์เป็นพระประธานปางมารวิชัยองค์โตพอสมควร แล้วก็ออกมาไหว้รูปไม้แกะสลักแต่งชุดไทยอยู่ด้านหลังโบสถ์ เหมือนเป็นศาล มีชุดไทยที่ศรัทธานำมาถวายเป็นการไถ่ถอนคำบนบานสานกล่าวแล้วได้ดังใจจง เรียกกันว่า "ศาลนางไม้เจ้าจอม" มีร่มเงาต้นโพธิ์ปกคลุมแดดบ่ายได้พอดี ทำให้พื้นเย็น นั่งกราบไหว้และเสี่ยงเซียมซีได้สบายๆ

            ผมพยายามค้นในอินเทอร์เนทหลายตลบ จับความได้เพียงว่า วัดบางกุ้งเป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย  ตั้งอยู่ท้องทีที่เรียกกันว่าบางคนที อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นวัดตั้งติดริมแม่น้ำแม่กลอง ฝั่งขวา วัดจริงๆอยู่ริมฝั่งแม่กลอง แต่มีโบสถ์น้อยหลังเล็กๆอยู่ฝั่งตะวันตก ซึ่งเมื่อได้พิเคราะห์เจาะลึกดูแล้ว น่าจะเป็นวิหารเก่าแก่ ซึ่งก็คือโบสถ์ขนาดเล็กที่มีมาก่อน รกร้างและหักพัง แต่วันนี้มีต้นไทรต้นโพธิ์ขึ้นปกคลุม 

 

            ได้เรื่องมาเพิ่มเติมว่า พ.ศ.2308 พม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ๆทรงบัญชาให้หัวเมืองปักษ์ใต้ยกกองกำลังขึ้นมารักษาค่ายบางกุ้งไว้ แต่แล้วปีพ.ศ.2310 กรุงศรีอยุธยาก็แตกพ่ายแก่พม่าจนสิ้นแผ่นดิน  พระยาตากยกกองกำลัง 500 นายบุกไปตั้งหลักที่เมืองจันทบุรี 7 เดือนต่อมาก็ยกทัพกลับมาตีเอาคืนจากพม่าได้สำเร็จ พม่าแตกพ่ายไปสิ้น 

             พระยาตากปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็น พระบรมราชาที่ 4 แต่บางเอกสารยืนยันมาเป็นพระบรมราชาที่ 6 ยุคสมัยแผ่นดินพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงให้กองทหารเชื้อชาติจีนตั้งกองกำลังอยู่ที่ค่ายบางกุ้ง

             ปีพ.ศ.2311 พม่าสั่งการให้เจ้าเมืองทวายยกทัพมาตีกรุงธนบุรีผ่านทางแม่น้ำแม่กลอง โดยล่องมาจากแม่น้ำแม่กลอง เมืองราชบุรี ลงมาจนถึงค่ายบางกุ้ง กรมการเมืองสมุทรสงครามแจ้งทูลพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงทราบ จึงได้ทรงยกทัพมาตีพม่าแตกพ่ายอีกครั้ง ที่หน้าศาลาการเปรียญหรือข้างฝั่งตะวันตกของวิหารปรกโพธิ์หรือปรกไทร มีอนุสรณ์สถานพระบรมรูปพระเจ้ากรุงธนบุรีสถิตอยู่

             ในวิหารน้อยปรกโพธิ์และไทร มีพระประธานสลักด้วยหินทรายแดง ปางมารวิชัย องค์โตสมกับขนาดของวิหาร ปิดทองเหลืองอร่ามไปทั้งองค์ด้วยแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่เข้ามากราบไหว้ ผนังโบสถ์หรือวิหารมีภาพเขียนพุทธประวัติแต่ก็เลือนลางเต็มที มีลวดลายปูนปั้นพันธุ์พฤกษาอยู่ทั่วไป ปะด้วยถ้วยและจาน อันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของการก่อสร้างผนังโบสถ์วิหารในยุคสมัยอยุธยาตอนปลาย กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2539 เล่ม 113 ตอนพิเศษ 50 

              เมื่อเดินถ่ายรูป,เสี่ยงเซียมซีกันครบถ้วนแล้ว ก็เดินทางกลับไปเที่ยวตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา ต่อตามรายการ  แต่เมื่อผมรีไวล์รูปดูทีละรูปในรถตู้ที่นั่งมาด้วยกัน พลันผมเกิดความคิดขึ้นว่า อันรูปปั้นท่ามวยไทยที่ อบต.บางกุ้ง สร้างแล้วทิ้งร้างกลางแจ้งแดดแดงแจ๋ ทั้งตากฝนอีกปีละหลายเดือน ร้อนๆเย็นๆ ปูนแข็งแค่ไหนวันหนึ่งก็ต้องแตกสลายไปจนได้ ไม่เข้าใจทำไมไม่สร้างโรงเรือนจัดตั้งแต่ละหมวดหมู่กระบวนท่ามวยไทยให้ดูน่าสนใจกว่านี้ละหนอ  

 

ศาลนางไม้เจ้าจอมวัดบางกุ้งบางคนที

             สงสัยปานนั้นแล้วก็ได้ความคิด ถ้ามีเงินจะเขียนหนังสือมวยไทยใส่รูปกระบวนท่ามวยต่างๆอย่างที่วัดบางกุ้ง แล้วจะนำหนังสือมาถวายเจ้าอาวาสให้ท่านจัดจำหน่ายที่ศาลาหน้าวิหารปรกโพธิ์ไทร รายได้ถวายเป็นเงินบำรุงพุทธศาสนา อีกปีเศษๆต่อมา ผมเกษียณราชการ ได้เงิน

ก.บ.ข.มาก้อนหนึ่ง หลังจากแบ่งสรรปันส่วนให้กับลูกเมียแล้วก็กันเงินไว้ก้อนหนึ่ง พิมพ์หนังสือมวยไทยให้น้องบัณฑิตเกษตรกำแพงแสนคนหนึ่งชื่อแพรพรรณ เหมเชื้อ วาดรูปลายเส้นกระบวนท่ามวยไทย 2,000 เล่ม ขายเล่มละ 25 บาท

             ผมพิมพ์แล้วก็นำมาถวายเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน 1,000 เล่ม แวะไปสอบถามแล้วขายไม่มีเหลือสักเล่ม ได้เงินบำรุงวัดไป 25,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 1,000 เล่มก็วางจำหน่ายไว้ที่ ศูนย์หนังสือเกษตร บางเขน 100 เล่ม และแจกจ่ายให้กับโรงเรียนต่างๆ เพื่อให้ใช้เป็นคู่มือศึกษาท่ามวยไทย จากวันนั้นจนวันนี้หลายปีดีดัก วัดบางกุ้งก็ยังคงได้อาศัยวิหารน้อยปรกโพธิ์ปรกไทรได้เงินบริจาคและจำหน่ายเทียนธูปสืบมา ส่วนหนังสือมวยไทยหมดแล้วจ้า(ที่วัด)

             นักท่องเที่ยวที่เห็นอยู่ในบริเวณวัด มีทั้งคนไทยเชื้อสายจีน เชื้อสายไทย เชื้อสายมอญ และฝรั่งอั้งม้อ แต่ก็มีรถปรับอากาศทัวร์มาเป็นขบวนอยู่เหมือนกัน ถ้าเป็นทัวร์จีนก็จะลงไปกราบไหว้พระประธานในโบสถ์ แต่ถ้าเป็นฝรั่งก็จะลงมาเดินชมแล้วถ่ายรูป แล้วเดินตากแดดออกไปชม กระบวนท่ามวยไทย ซึ่งตั้งเรียงไว้ใกล้ๆโบสถ์ใหญ่ 

             ก็อย่างที่ผมว่า ถ้าสร้างโรงเรือนให้เหมือนค่ายในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี แล้วจัดหมวดหมู่กระบวนท่าให้เป็นเรื่องราว ภายใต้ร่มโรงเรือนที่ใช้ภูมิสถาปัตย์กรรมแบบไทยๆเสริมเข้าไปอีกหน่อย เสาร์อาทิตย์จัดแสดงกระบวนท่ามวยไทยโดยนักเรียนหรือเยาวชนคนบางกุ้ง เพื่อให้ชาวต่างชาติได้รู้เห็นเคล็ดวิชามวยไทยมากขึ้น

            ค่ายบางกุ้งก็อาจจะฟื้นคืนชีพ เหมือนที่เคยเป็นค่ายของมวยไทยและค่ายของมวยจีนตอนปลายสมัยอยุธยา และต้นกรุงธนบุรี  

             การเดินทางไปวัดบางกุ้งทางน้ำโดยเรือเหมาลำเที่ยวไหว้พระ 5 วัด คนละ 50 บาท แต่ถ้าไปทางรถยนต์ อยู่ที่ป้ายบอกทาง และปากอยู่ที่ทาง คอยจอดสอบถามไปเรื่อยๆง่ายกว่าเขียนให้อ่าน ถ้าไปตลาดน้ำยามเย็นอัมพวาถูก ก็ไปค่ายบางกุ้งถูก ว่างั้นเถอะ 

             ไม่ไปไม่รู้หรอก ของดีก็มีอยู่   

Tags : ท่องไปในแดนธรรม Temple tour Travel Unseen thailand วัดบางกุ้ง

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view