เครื่องสีข้าวโบราณ ประเภทหนึ่งในเครื่องจักสานที่ผูกพันกับวิถีชีวิตไทย
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง/ภาพ-นิวัตร เปาอินทร์
เครื่องจักรสานจากผลิตภัณฑ์ไม้ไผ่หรือหวาย เป็นหนึ่งในภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยที่หยิบจับวัสดุจากธรรมชาติมาสานสอดจนกลายเป็นเครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องใช้ ในวงวิถีชีวิตของชาวชนบทมายาวนาน เครื่องสีข้าวโบราณเป็นภูมิปัญญาไทยที่น่าภาคภูมิใจ แม้วันนี้การสีข้าวสามารถใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าช่วยจนเกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากกว่าก็ตาม แต่ก็ควรอนุรักษ์ไว้เพราะว่าเป็นภูมิปัญญาที่น่าทึ่งและแสดงถึงสติปัญญาของชนชาวไทย
เครื่องสีข้าวโบราณภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย
เครื่องสีข้าวโบราณแบ่งโครงสร้างออกเป็น 5 ส่วน ประกอบด้วย ท่อนฟันบน ท่อนฟันล่าง ไม้คาน แกนหมุน และคันโยก
สร้างด้วยวัสดุจากธรรมชาติดังนี้คือ ไม้ไผ่จักติดผิวขนาด 20 มม.เป็นแกนตั้งโครงท่อนฟันบน-ล่าง และไม้ไผ่จักติดผิวขนาด 10 มม. คานไม้แปรรูปขนาด 3 นิ้ว หนา 1.5 นิ้ว แกนหมุน ใช้ไม้แปรรูปขนาด 3 นิ้ว หนา 1.5 นิ้ว ปลายหนึ่งลดขนาดลงเพื่อสอดในตัวคานไม้ และคันโยกผ่อนแรง ทำด้วยไม้แปรรูปขนาด 3 นิ้ว หนา 1.5 นิ้ว
ท่อนฟันบนและท่อนฟันล่างสานเป็นรูปทรงกระบอกแตกต่างขนาดกัน เพื่อให้เกิดการ"ขัดเปลือก" ขนาดที่นิยมกว้าง 50 ซม.สูง 50 ซม.
คานไม้ ไม้แปรรูปขนาด 3x1.5 นิ้ว ยาว 80 ซม. สอดผ่านท่อนฟันบน
แกนหมุน ใช้ไม้แปรรูปขนาด 3x1.5 นิ้ว ยาว 40 ซม. ปลายหนึ่งสอดเข้ารูคานไม้ได้
คันโยก เป็นไม้แปรรูปขนาด 3x1.5 ซม. หรือไม้กลมก็ได้ เชื่อมต่อจากแกนหมุนแล้วลากยาวไปประกอบติดแท่นขาตั้งสองขา ใช้เชือกผูกหัวท้ายเพื่อให้โยกไม่กินแรง
ดินเหนียวและเกลือป่น ใช้เป็นเชื้อประสานท่อนฟันบนและท่อนฟันล่าง ทำให้ปลวกไม่อยากกินเครื่องจักรสานเครื่องสีข้าวโบราณ แต่อย่างไรก็ตาม เครื่องสีข้าวโบราณในอดีตถูกใช้สีข้าวทุกวัน ปลวกก็เลยไม่กล้ามารบกวน
ภาพที่ประกอบเรื่องนี้ ถ่ายมาจากพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านระยอง มีเฉพาะตัวท่อนฟันบนและท่อนฟันล่าง คานไม้ แกนหมุน ไม่มีส่วนของคันโยกให้เห็น