http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,993,181
Page Views16,301,416
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ป่าชายเลนท่าสอน :มีดีอะไรหรือ โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ป่าชายเลนท่าสอน :มีดีอะไรหรือ  โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ป่าชายเลนท่าสอน :มีดีอะไรหรือ 

โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

             จันทบุรีโด่งดังมากเรื่องหิ่งห้อยที่ป่าชายเลนท่าสอน ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี กม.374 จริงหรือ โดยวิสัยคนขี้สงสัย "ต้องไปทำความจริงให้ปรากฎ" ผมกับเพื่อนสื่ออีกสองฉบับ(โพสท์ทูเดย์กับเครือมติชน) จับรถยนต์ดิ่งไปเมื่อปลายเดือนเมษายน 2554 อันเป็นปลายร้อนกำลังจะย้อนเข้าหน้าฝน แต่ด้วยว่าจันทบุรีเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ได้ชื่อว่า "ฝนแปดแดดสี่" จึงเอาแน่นอนนักไม่ได้ 

    

สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2(ท่าสอน)

            วันที่เราไปถึงกำลังมีการจัดงานหิ่งห้อยประจำปีอยู่ เป็นความร่วมมือระหว่างสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 (ท่าสอน) กับองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อ เพื่อให้เกิดเอกลักษณ์ของการพัฒนาป่าชายเลนรูปแบบใหม่ ซึ่งมิใช่เพียงการป้องกันรักษาพื้นที่ป่าชายเลน การปลูกป่าชายเลน การศึกษาระบบนิเวศน์ป่าชายเลน ฯลฯ แต่เป็นการพัฒนาสังคมของมนุษย์ที่อยู่รายรอบป่าชายเลนไปด้วยอันเป็น "การจัดการแบบบูรณาการ"   

ปั่นจักยานออกกำลังอย่างร่าเริง

            งานคืนนั้นอยู่ในสภาพฝนฟ้าตกพรำบ้าง ว่างเว้นบ้าง ที่เราคาดหวังว่าจะเดินชมหิ่งห้อยที่ร่ำลือกันว่ามีมากที่สุดในประเทศไทย แล้วมีการเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี ออกอาการว่าปีหน้า พฤศจิกาหน้าหนาวต้องมาใหม่ เพราะว่าช่วงเวลานั้น นอกจากฝนจะไม่ตกแล้วยังหนาวได้ใจ เดินดูหิ่งห้อยที่พราวไปทั้งป่า

ต้นไม้ป่าชายเลนที่หนาแน่น ดูมีพลัง

           แต่อย่างไรก็ตาม ผมและคณะเล็กๆได้ตัดสินใจออกเดินเที่ยวชมความมหัศจรรย์ของป่าชายเลนท่าสอน หรือ ป่าชายเลนปากน้ำเวฬุ ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางถึง 150,000 ไร่เศษ

           เริ่มต้นจากสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 มีถนนราดยางอย่างดีระยะทาง 2 กม.เศษ เดินเท้าไปได้สบายๆ ระหว่างทางก็ถ่ายภาพต้นไม้ป่าชายเลน และนกหลากหลายชนิดได้วยแต่บางคณะปั่นจักรยานไป

   

 ความงดงามของวัยสาว ปชส.สถานี  

            เดินไปจนสุดถนนที่ชายทะเล มีท่าเรือคอนกรีตทอดยาวลงไปในทะเล ชมทัศนียภาพพร้อมๆกับรับลมทะเลแสนบริสุทธิ์กันพักใหญ่ ถ่ายรูปเก็บเข้าไฟล์กล้องเอาไว้ใช้งาน ถัดจากนั้นก็ตัดสินใจเดินเข้าไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน มีแผนที่แสดงให้ดูคร่าวๆ แล้วก็เริ่มต้นเดินกันไปบนสะพานไม้ที่ทอดยาวเข้าใต้ร่มเงาแมกไม้  ร่มบ้างแดดบ้าง

   

ครอบครัวมีความสุขบนสะพานไม้ที่ทอดยาว

            ต้นไม้ที่เห็นมีป้ายชื่อบ้างไม่มีชื่อบ้าง แต่มีบางต้นรู้จักอยู่ก็มี เช่นต้นลำแพนกำลังตกลูกเขียวๆ แป้นๆ ลูกอ่อนกินเป็นผักแกล้มกับน้ำพริกหรือแกงไตปลาอร่อย บางทีเห็นแต่ดอกสีแดงกระจุกเล็กๆ ใช่แล้วต้นฝาดดอกแดง(Lumnitzera littorea) เจ้าต้นนี้มีดอกหน้าฝน นกกินปลี นกกระจิบ นกแว่นตาขาว ชอบมาดูดกินน้ำหวานจากดอกแดงๆ 

            ปัจจุบันนี้นิยมปลูกในกระถางตั้งขายทั่วไปในตลาดต้นไม้

    

                  ผลลำแพนกินได้                              ดอกฝาดแดงที่นกชอบน้ำหวาน

            เดินไปเห็นต้นหวายลิงกำลังมีผลสีเขียว ถ้าแก่จะสีแดง เป็นสมุนไพรที่แก้ไข้ตัวร้อน  หันไปอีกทีพ้นชายป่าเป็นต้นขลู่ ต้มชงเป็นน้ำชาดื่มลดน้ำหนักดี  ต้นฝาดขาว ต้นโปรงแดง ต้นเสม็ดขาว แล้วก็ต้นเสม็ดแดง แต่พอเหลียวไปเห็นระบบรากของต้นไม้ในป่าชายเลน น่าทึ่ง ต้นโกงกางใบเล็กและใบใหญ่รากอากาศแผ่คลุมเหมือนย่างสามขุมคลุมพื้นป่า 

   

                  รากโกงกางทรนง                                   เขม็งจนแน่นปึ้ก

           ที่เห็นแล้วต้องยอมรับเลยว่า เมื่อครั้งที่พายุสึนามิถล่มทางภาคใต้  หลายหมู่บ้านได้อาศัยป่าชายเลนกำบังลมแรงๆ จนพ้นภัยพิบัติ กรุณาพิจารณาดูนะครับว่า รากเขายึดโยงกันแน่นหนาน่าทึ่งไหม นี่แหละที่รากไม้เขาสานกันจนแน่น ต้นไม้ถูกยึดโยงซึ่งกันและกัน เหมือนตะแกรงเหล็กที่สอดประสานแล้วเทคอนกรีตทับ มันแข็งแรง มันทนทาน และมันพึ่งได้ 

   

ระบบรากที่แข็งแรงด้วยการสอดประสาน ช่วยให้ต้นไม้ต้านลมพายุได้ดี            

           เดินกันไปจนเหนื่อยก็แวะนั่งพักที่ศาลาสื่อความหมาย นั่งคุยกันไปก็แหงนมองดูท้องฟ้าใสๆ ใบไม้ที่ไหวด้วยแรงลม และนกที่ส่งเสียงร้องและกระโดดโลดเต้น หาจิกหนอนกินไปพลางก็เรียกหาคู่ไปพลาง อากาศยามเช้าเย็นสบายๆ ภายใต้ร่มเงาต้นไม้สองฝั่งสะพาน สูดอ็อกซิเจนสดๆจากแหล่งผลิต มันเหมือนว่าถ้ามีกาแฟสักแก้ว น้ำชาสักถ้วย แล้วนั่งอยู่กลางป่าชายเลน เหมือนนั่งอยู่ในสวนสวรรค์ ไม่เชื่อก็ลองไปนั่งดูสักเช้า 

   

            นกกระจิบชนิดหนึ่ง                            นกกางเขนตัวเมียคาบเศษหญ้าทำรัง

           มีนกบินไปแล้วก็บินมา แต่ที่ถ่ายได้ทันก็นกกางเขนตัวเมียกำลังคาบเศษใบไม้เพื่อจะนำไปสานรังวางไข่ นกสีสันสวยมาก คล้ายนกกระจิบ แต่ก็ไม่แน่ใจนัก ด้วยว่านกในป่าชายเลนท่าสอนแห่งนี้มีมากกว่า 200 ชนิด (สมหมาย สรรพคุณ ผอ.สถานี) บางทีได้ยินเสียงร้องก็รู้ว่านกกาเหว่า พยายามจะมองหาตัวตามเสียงร้องก็มองไม่เห็น นกชนิดนี้เขาชอบซ่อนตัวในดงไม้ใบทึบๆ 

   

          ดอกรสสุคนธ์ขาวหอมกระจาย                       ระบบรากไม้ที่แตกต่าง

          ต้นเสม็ดขาวกำลังออกดอก ส่งกลิ่นหอมจรุงใจ มีผึ้งและแมลงเล็กๆบินดูดกินน้ำหวานว่อน ข้างสะพานเดินมีดอกรสสุคนธ์ขาวช่อใหญ่ กระทบแสงแดดยามเช้าดูสดใส เข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ กลิ่นหอมแรงโชยเข้าจมูกกึก แต่เจ้ามดแดงแฝงตัวอยู่พยายามขับไล่ผมอยู่ เขาเข้ามากัดแล้วก็เหยี่ยวรดเท้าผม เท่านั้นเอง ได้เรื่อง เจ้ามดแดงออกมารุมเท้าผมจนต้องล่าถอย 

   

 ดอกเอ็นอ้าชนิดหนึ่ง ดอกไม้งามประดับป่าชายเลน

          ผมตัดใจเดินหนี พลันก็ได้เห็นดอกเอ็นอ้าชนิดหนึ่ง ดอกตูมมีรูปร่างสวยงาม สีชมพูหวานเจี๊ยบ ครั้นใกล้เวลาจะบานดอก กลีบดอกสีม่วงชมพูจะโผล่ออกมาจากกระเปาะสีชมพู ดอกบานมี 5 กลีบ เกสรสีเหลืองงอๆอยู่ในใจกลางดอก ซึ่งมีทั้งเกสรผู้และเกสรเมียอยู่ในดอกเดียวกัน ต้นเอ็นอ้าเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านสาขาจนเป็นพุ่มกลม แมลงภู่บินเข้าบินออกใจกลางดอกเอ็นอ้า ดูดกินน้ำหวาน และช่วยให้การผสมพันธุ์เป็นไปได้ดียิ่งขึ้น 

   

ศาลาสื่อความหมายและตะกาดในป่าชายเลน

          กว่าจะเดินพ้นด่านสุดท้าย ยังได้เห็น "ตะกาดป่าชายเลน" เป็นแดนทรายแทรกอยู่ในป่าชายเลน แปลกตาและแปลกมากๆ โล่งจนทำสนามเตะตะกร้อได้ พ้นตะกาดชายเลนผมเห็นต้นกล้าโกงกางใบเล็กซึ่งกำลังเจริญเติบโตอยู่ใต้ร่มเงาของแม่ไม้ ฝักยาวๆแหลมๆเมื่อร่วงหล่นลง จะปักลงในดินเลน แล้วเริ่มต้นชีวิตที่พ้นอกแม่ แต่ก็ยังอยู่ใต้ร่มต้นแม่ นี่แหละ "ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น"

    

ชาวประมงปลูกกั้นคลื่นจากทะเล

          สรุปได้ว่า สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 (ท่าสอน) มีบทบาทสำคัญต่อชุมชนในด้านการป้องกันพายุจากลมและฝน  เป็นแหล่งที่เรียกว่าเป็นต้นกำเนิดของห่วงโซ่อาหาร ปลา กุ้ง หอยจะวางไข่จนกว่าจะเติบโตพอก็ลงไปสู่ทะเลลึก เป็นอาหารสัตว์น้ำไปเป็นทอดๆ เป็นแหล่งค้นคว้าศึกษาในทางวิชาการป่าไม้และสังคมชุมชนชายป่า เป็นแหล่งอาศัยและหากินของสัตว์ป่าเช่นนก กระแต ฯลฯ  เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้  เป็นแหล่งทรัพยากรด้านสมุนไพรจากไม้ป่าชายเลน เป็นแหล่งอาหารของคนและสัตว์ เนื้อไม้ใช้เป็นเครื่องมือทำการประมงเรือเล็กได้ดี หรือสร้างบ้านก็ทนทานนานปี

    

    ป่าโกงกางขึ้นเมื่อไรต้นแสมซึ่งเป็นไม้เบิกนำก็จะตายจากไป

           วันนี้ สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 (ท่าสอน) ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี ได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี อันได้แก่ การเดินป่าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ตะวันคล้อยราวๆ 4-5 โมงเย็น ลงเรือไปชมเหยี่ยวแดงนับร้อยๆที่ป่าชายเลนกลางทะเล น่าตื่นตาตื่นใจ ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยหากินอยู่รอบๆผืนป่าชายเลน ทั้งประมงเรือเล็ก และการเลี้ยงปลา หอย ในกระชัง

ประมงเรือเล็กออกทำงาน

           และเมื่อกลับเรือมาขึ้นฝั่งก็จะได้เดินชมหิ่งห้อยในยามค่ำคืนราวๆ ทุ่มเศษๆ ที่นี่มีบ้านพักแรมทางให้กับผู้ที่สนใจ แบบเดี่ยว-คู่ หรือนอนเป็นหมู่คณะ สนนราคาต้องติดต่อโดยตรง โทร.039-313432, 089-2453509 หรือเข้าไปที่ www.weluwetland.net แล้วท่านก็จะได้ไปพักผ่อนสมใจในป่าชายเลน

            ที่นี่เปิดการท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม ทุกปี โปรดติดตามเรื่องของเหยี่ยวแดงในเว็บไซท์นี้ 

   

ปราการธรรมชาติกั้นภัยสึนามิสบายๆ

                                 

 ฝักโกงกางใบใหญ่

Tags : คืนป่าสู่แผ่นดิน ท่องเที่ยวทั่วถิ่นไทย

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view