http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,956,538
Page Views16,262,830
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เสือกลิ่นสาบ ตอน 27 รัฐมนตรีมาตรวจราชการ โดย อินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ ตอน 27 รัฐมนตรีมาตรวจราชการ  โดย อินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ

ตอน27.รัฐมนตรีมาตรวจราชการ

โดยอินทรี ดำ

 

            มณีทำงานตามหน้าที่ เช้าก็ออกเดินไปที่ทำการพร้อมๆกับชาวบ้าน  บางวันก็นั่งรถยนต์ขึ้นไปโดยสาขับให้ แต่ทุกวันมณีมีความรู้สึกโหวงเหวง เหว่ว้า เอือมระอาเต็มประดา ด้วยความรู้สึกผิดหวังในหลายๆสิ่งที่เกิดขึ้น

            “แม้ตั้งใจทำงาน ก็ไม่เคยได้รับการพิจารณาให้ขยับตำแหน่งแต่อย่างใด” 

            “จะให้ไปเป็นขุนรินสุราบาล เฝ้าแต่ยกยอปอปั้น ได้ครับท่าน ดีครับนาย สุดยอดครับนาย  ” มณีก็ทำไม่เป็น เพียงนึกก็แทบจะอาเจียนออกมาเป็นชาม

            ครั้นจะให้ไปรับใช้ในเรือนทาส เช่นที่เพื่อนบางคนทำได้ เช้าถึงก็เดินหิ้วตะกร้ากับข้าวให้คุณนาย เย็นก็ไปรอยืนทำความเคารพที่ประตูทางออกสำนักงาน หรือจะให้ไปหาของโปรดแอบไปส่งให้ในโรงแรม ก็ไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหน"เสนอสนองตัณหา"ได้ มณีคิดแล้วก็ปรงในโชคชะตาฟ้าลิขิต

            “มึงจะให้นายเขาลงมาง้อมึงหรือ นายที่ไหนจะทำ ต่อให้มึงเก่งงานเพียงใด เมื่อนายขอมึงไม่ได้ มึงก็อย่าหวัง”  เพื่อนคนหนึ่งเตือนสติ แม้จะเป็นคู่แข่งกันอยู่ในที

             มณีก้มหน้าเดินเข้าสำนักงาน อาการเหนื่อยหน่ายที่มองเห็น ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชามองด้วยสายตาเศร้าๆ อาจจะสงสาร อาจจะเห็นใจ หรืออาจจะสมเพช แต่ไม่ว่าใครจะมองหรือจะคิดอย่างไร มณีก็ได้แต่นิ่งเหมือนน้ำท่วมปาก ได้แต่นึกในใจ

             “ใจเขาใจเรา” “นานาจิตตัง” “แล้วแต่จะคิด” มณีเงยหน้าขึ้นเมื่อผ่านม้วน

             “กาแฟแก้ว” ม้วนตอบเบาแผ่ว “เจ้า” ต่างแยกไปตามหน้าที่ มณีเข้าห้องทำงาน ม้วนไปชงกาแฟมาเสิร์ฟ หลายคนได้แต่มองสบตากัน

              สมชายเคาะแล้วเปิดประตูเข้ามานั่งหน้าโต๊ะ พร้อมแฟ้มที่ต้องนำเสนอประจำวัน

              “มีอะไรใหม่เหรอ” มณีเงยหน้าพร้อมคำถาม

              “มีเรื่องเดียวครับ วิทยุจากป่าไม้เขตแพร่ รัฐมนตรีหาญจะบินมาลงหน้าโรงเรียนเวลา 13.20 น. มาตรวจราชการสำนักพัฒนาป่าไม้ที่นน.2 ครับ มีผู้ติดตาม 3 คนได้แก่ รองอธิบดีผ่อง ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ถวัลย์  และคุณนายของท่านรัฐมนตรีครับ”

              “เตรียมห้องบรรยายสรุป สั่งเด็กๆดูแลเรื่องเครื่องดื่ม และว.ให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ๆเข้ามารับฟังนโยบายจากท่าน” มณีพูดเบาๆ พอได้ยินกันสองคน สมชายมองหน้า ยิ้มให้กำลังใจแล้วถาม

              “พี่ไม่รู้เลยหรือครับ ว่าท่านรัฐมนตรีจะมาตรวจราชการ”

              “ไม่รู้ มาดีมาร้าย ก็ยังไม่รู้”

              มณีตอบแล้วก็เดินลงไปยังบ้านพัก เพื่อแต่งเครื่องแบบให้เหมาะสม ทุกคนเริ่มอาการวุ่นวาย ตื่นเต้น คนระดับรัฐมนตรีมาตรวจราชการ มาเงียบๆได้ไง น่าแปลกประหลาด เหตุใดป่าไม้เขตแพร่ หรือสำนักพัฒนาป่าไม้อื่น หรือป่าไม้จังหวัดจึงไม่มากต้อนรับ กันเลย

              เวลา 13.00 น. มณีและคณะเดินลงไปตั้งแถวรอรับคณะรัฐมนตรีที่สนามหน้าโรงเรียนบ้านภูพยับหมอก ท่าทางเครียดๆ เหมือนว่าตื่นเต้นอยู่ในที เวลา 13.20 น.ฮ.เกษตรลงจอด มณีเดินเข้าไปรายงานตัว พร้อมกับเหลียวไปยกมือไหว้ผู้ติดตามอีกสามคน

             มณีเดินละล้าละลังจะก้าวนำหน้าท่านรัฐมนตรีก็กริ่งเกรง  จะเดินตามหลังท่านรัฐมนตรีก็ไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหน

             “เดินนำหน้าไปซิ เราจะไปรู้หรือจะไปทางไหน” เสียงรัฐมนตรีดุเอาดังๆ มณีรีบเดินขึ้นหน้าพร้อมกับเหลียวกลับมาครึ่งคอเพื่อรายงานไปด้วย

              “หมู่บ้านนี้สร้างขึ้นด้วยแนวคิดจากหมู่บ้านป่าไม้ของกองจัดการที่ดินป่าสงวนแห่งชาติครับ เพื่อรวบรวมชาวบ้านที่ทำไร่เลื่อนลอยอยู่แถบนี้ให้มาอยู่รวมกันเพื่อการพัฒนาทั้ง"คนและป่า" งานหลักคือปลูกป่าเพื่อปรับปรุงต้นน้ำครับ ลุ่มน้ำที่ปรับปรุงอยู่นี้เรียกว่าลุ่มน้ำห้วยสามสบ มีพื้นที่ทั้งลุ่มน้ำ 62,500 ไร่มีประชาชนอยู่อาศัยรอบแนวเขตและในเขตลุ่มน้ำ 13 หมู่บ้าน เป็นชาวไทยเหนือมีชาวไทยภูเขาเผ่าเดียวคือ ม้ง ซึ่งอยู่บนขุนต้นน้ำครับ” มณีเดินไปเล่าไปจนถึงสำนักงานพัฒนาป่าไม้ที่นน.2 

               ข้าราชการและเจ้าหน้าที่เข้าที่ประจำการ ท่านรัฐมนตรีปรี่เข้าไปดูแผนที่ที่ใช้ผ้าผืนหนึ่งถักทอด้วยมือเป็นรูปอาณาเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ แล้วก็เดินไปชมภาพถ่ายที่ติดบอร์ดด้านข้าง มณีเดินตามเพื่ออธิบายต จนกระทั่งท่านรัฐมนตรีเดินกลับมานั่งที่ เพื่อรอรับฟังรายงานอีกครั้ง

               “กราบเรียนท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะด้วยความเคารพ ผมมณี บันลือ หัวหน้าสำนักพัฒนาป่าไม้ที่ นน.2 รับผิดชอบพื้นที่ลุ่มน้ำน่านตอนใต้ 1,645 ตร.กม. เป็นพื้นที่ป่าสัมปทานทำไม้ 2 ป่า ได้แก่ป่าสัมปทานทำไม้ป่าแม่น้ำน่านฝั่งซ้ายและฝั่งขวา โดยมีบริษัททำไม้จังหวัดจำกัดเป็นผู้รับสัมปทาน  หน่วยปรับปรุงต้นน้ำ 1 หน่วย สถานีวิจัยต้นน้ำ 1 สถาน สวนป่าไม้สัก 2 สวน พื้นที่ป่าทั้งหมดเป็นป่าเตรียมการสงวนปีพ.ศ.2507 มีแม่น้ำน่านเป็นแม่น้ำหลักของพื้นที่ครับ”

               “สำนักพัฒนาป่าไม้ที่นน.2 ประกอบด้วยสายงานดังนี้คือ ฝ่ายป้องกันและปราบปรามป่าไม้  ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ฝ่ายจัดการป่าไม้มีหน้าที่ควบคุมการทำไม้ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขสัมปทานทำไม้ระยะยาว ฝ่ายปลูกสร้างสวนป่า ควบคุมการปลูกป่าไม้สัก จำนวน 2 สวน ฝ่ายจัดการต้นน้ำ ควบคุมการปลูกป่าปรับปรุงต้นน้ำ และสถานีวิจัยต้นน้ำ”

                ท่านรัฐมนตรีนั่งฟังนิ่งเหมือนไม่สนใจอะไรนัก แต่ในความนิ่งของบุคคลระดับรับมนตรีนั้น ย่อมมีกระบวนการอยู่ภายใน   มณีรอฟังการซักถามและเตรียมพร้อมตอบคำถาม แต่ก็ไม่มีใครถามสักคำถามเลย

                “ผลงานการจัดตั้งสำนักพัฒนาป่าไม้ คุณคิดว่าได้ผลสัมฤทธิ์หรือไม่” รองอธิบดีผ่องถาม

                “ผมขอกราบเรียนครับว่า เมื่อผมเป็นเพียงหน่อยปรับปรุงต้นน้ำอยู่นั้น ต้องทำงานโดดเดี่ยวเพียงลำพัง มีข้าราชการเพียง 2 คน นอกนั้นเป็นคนงาน แต่เมื่อตั้งสำนักพัฒนาป่าไม้ที่นน.2 ด้วยการสมาดกำลังหน่วยงานป่าไม้ทั้งหมดในพื้นที่เดียวกันเช่นป่าไม้แขวงในอดีต ทำให้ผมทำงานไม่โดดเดี่ยว แต่สามารถระดมกำลังช่วยกันออกปราบปรามและร่วมเป็นหูเป็นตาได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น  รวมทั้งเจียดจ่ายเงินงบประมาณ ยานพาหนะ กำลังคน เพื่อช่วยสนับสนุนได้ในเวลาอันรวดเร็ว การป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่ามีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ”

                 ท่านรัฐมนตรีพยักหน้าหงึกๆ คุณนายของท่านยิ้มพราย รองอธิบดีผ่องและผอ.กองการเจ้าหน้าที่ ท่าทีเฉยๆ ท่านยกมือขึ้นพร้อมกับลุกเดินมาดูแผนที่อีกครั้ง

                  “ตรงไหนป่าสัมปทานทำไม้ 2 ป่า”

                   มณีชี้แต่ละจุดให้ท่านดู

                   “สภาพป่าไม้เป็นยังไงบ้าง มีการกระทำผิดแบบลักลอบไหม” ท่านกระวิบถามค่อยๆ มณีตอบเสียงค่อยๆพอกัน

                   “เรียบร้อยตามระเบียบดีครับ ผิดผมก็จับไปครั้งหนึ่งเท่านั้นเอง สภาพป่าไม้สมบูรณ์มากครับ มีความหนาแน่นของไม้ได้ขนาดทำไม้สูง โดยเฉพาะไม้สักและไม้กระยาเลยหวงห้ามครับ” ท่านรัฐมนตรีพยักหน้าด้วยความพอใจ

                    “เอาละ ขอเข้าห้องน้ำหน่อย พวกเราจะได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดเชียงราย” ท่านรัฐมนตรีเดินเข้าห้องสุขา แล้วขบวนของท่านก็นั่ง ฮ.เกษตรเดินทางกลับไป  ทุกคนเดินเข้ามาซักถามเพิ่มเติมจากมณี

                    “ท่านไม่กระซิบอะไรเลยหรือ “

                    “ท่านจะปูนบำเหน็จความดีความชอบพวกเราบ้างไหมครับ”

                    “ท่านดูเงียบๆ ไม่ค่อยแสดงอารมณ์เลย”

                    “เหนื่อยเปล่าอีกหรือเปล่างานนี้”  

                     มณีเดินกลับเข้าสำนักงานด้วยความงุนงง ไปอย่างไรมาอย่างไรกันหนอ อยู่ๆก็มา อยู่ๆก็ไป เหมือนจะบินดูอะไรเรื่อยเปื่อยไปหรือไง

                     มณีทำงานไปตามหน้าที่ เช้าเข้าสำนักงานแล้วก็ออกตรวจป่าไปกับคณะ มณีไม่เคยเข้าไปพบป่าไม้เขต หรือใครเลย มณียังรู้สึกเจ็บปวดที่เคยเกิดเหตุแล้วเหมือนโดนรุม ความรู้สึกไว้วางใจเปลี่ยนไป มณีกลายเป็นคนเงียบขรึมกว่าเดิม   ระมัดระวังเรื่องพูดคุยกับเพื่อนๆต่างสำนักโดยเฉพาะระดับฝ่ายของป่าไม้เขตแพร่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรุ่นพี่จากคณะวนศาสตร์เดียวกัน

                    จันทร์แรกเข้าทำงานตามกรอบเวลา สมชายเดินมาด้วยความตื่นเต้น มณียังเดินไม่ถึงสำนักงาน

                    “พี่ พี่ มีวิทยุด่วนมาอีกแล้ว รองอธิบดีกรมป่าไม้ ไพโรจน์ ลงนามครับ ให้นายมณี บันลือ เดินทางเข้าพบก่อนเวลา 16.30 น.วันที่ 10 มกราคม 2531” สมชายยื่นสำเนาวิทยุให้มณี ๆรับมาอ่านแล้ว เงยหน้าขึ้น

                    “พรุ่งนี้แล้วซิ   เรื่องอะไรอีกละนี่” มณีพึมพำแล้วก็เดินเข้าสำนักงาน เรียกประเสริฐเข้าพบ เพื่อให้ไปจองตั๋วรถทัวร์ที่อำเภอเวียงสา

                    “ไปเครื่องบินไม่ดีหรือพี่” ประเสริฐท้วง

                    “ไปรถทัวร์แหละ นอนไปชั่วคืนเดียว”

                    มณีตอบแผ่วๆ พร้อมกับควักเงิน 500 บาทส่งให้ ไม่รู้จะบอกประเสริฐอย่างไรว่า เงินไม่พอ เงินกองกลางก็ไม่เคยเบิกมาใช้เลยสักครั้ง ทุกอย่างกองรวมอยู่เพื่อเสริมสรรพกำลังในการออกตรวจปราบปรามการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484  เพื่อให้มีน้ำมันรถยนต์ที่ใช้เกินกว่าที่ได้งบประมาณถึงเท่าตัว อาหารการกินของพนักงานเจ้าหน้าที่ 22 ชีวิต และเบี้ยเลี้ยงพิเศษตามที่ได้ตั้งกติกาเอาไว้

                   สาไปส่งขึ้นรถทัวร์ที่อำเภอเวียงสาแล้ว ก็ตีรถกลับ ไปรวมกำลังกันออกตรวจตามที่มณีสั่งประเสริฐไว้ มณีนั่งกึ่งเอนนอนไปเงียบๆ คิดในใจ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกหรือ ทำไมท่านรองอธิบดีกรมป่าไม้ไพโรจน์จึงได้วิทยุสั่งการมา มีใครฟ้องร้องอะไรอีกหรือ มณีคิดวนไปวนมาแล้วก็เคลิ้มหลับไป 

                   แต่เมื่อมณีกดออดที่หน้าบ้านเช้ามืด มณีรู้สึกตื่นเต้น จะได้เห็นหน้าเมียและลูกอีกแล้ว มณีรู้สึกมากขึ้นเหมือนมีไฟรุมสุมอยู่ในอก ระทึกใจเมื่อได้โอบกอดและฝังจมูกแนบแก้มเมียรัก  มณีอาบน้ำแต่งตัวเตรียมเข้านอนตอนเช้ามืด

                  แต่แล้วไฟรักที่ท่วมท้นจนล้นอกก็โหยหา มณีกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนแทบขาดใจ  มณีเอนตัวลงนอนเมื่อไฟรักโรยรา แม่ของลูกโอบกอดแน่น

                  “คิดถึงพ่อจังเลยนะคะ”

                  “พ่อก็คิดถึงแม่เหมือนกัน แต่งานยุ่ง นี่ก็ไม่รู้เรื่องอะไร สัปดาห์ก่อนท่านรัฐมนตรีไปตรวจราชการที่สำนักงานโดยไม่รู้ตัว แล้วนี่มีวิทยุด่วนที่สุดสั่งการให้ไปพบรองอธิบดีกรมป่าไม้ไพโรจน์พรุ่งนี้ก่อน 16.00 น.”

                  “เกิดอะไรขึ้นอีกก็ไม่รู้เลยหรือค่ะ”

                  “ไม่รู้เลยจริง พรุ่งนี้เย็นจะเล่าให้ฟังก็แล้วกันนะ”

Tags : เสือกลิ่นสาบ ตอน 27 รัฐมนตรีมาตรวจราชการ บนความว่างเปล่า

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view