หน้าแรก
เว็บบอร์ด
บทความ
รวมรูปภาพ
ติดต่อเรา
ข่าวสาร
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อ.นาน้อย จ.น่าน
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ขุนเขาสูงเสียดฟ้า มักเป็นรอยต่อระหว่างสันปันน้ำ ยิ่งจังหวัดทางภาคเหนือยิ่งเห็นชัดเจน ลองตามไปดูที่อุทยานแห่งชาติขุนสถานซิครับ ท่านจะเห็นธรรมชาติของการดันตัวของแรงอัดใต้ดินจนพื้นที่ภูเขาแตกต่าง ที่นี่เป็นสันปันน้ำระหว่างจังหวัดน่าน จังหวัดแพร่ และจังหวัดอุตรดิตถ์ ความสูงสุดยอดดอยธง 1,638 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ภูมิอากาศเย็นจัดในฤดูหนาว 10-
แสงเรืองๆริมขอบฟ้าก่อนพระอาทิตย์โผล่พ้นทิวเขา
บนเทือกเขาสูงของอำเภอนาน้อย สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน(สูง 1,455 ม.) เป็นหน่วยงานแรกที่บุกขึ้นไปทำการศึกษาวิจัยผลกระทบของการทำลายป่า อันเนื่องมาจากการทำไร่เลื่อนลอยและการปลูกกะหล่ำปลีของชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง แต่ด้วยความรักสวยรักงาม สถานีวิจัยปลูกตกแต่งไม้ประดับด้วยไม้ป่าเมืองไทยเช่นนางพญาเสือโคร่ง ต้นไฟเดือนห้า (เมเปิ้ล) ใบจะแดงก่อนร่วงหล่น และไม้ประดับเมืองหนาวจากต่างประเทศ จนกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ชื่นชอบการสัมผัสอากาศหนาวเย็นจับใจ 
บรรยากาศน่านั่งพักผ่อน
วัยรุ่นล้วนน่ารัก............แต่มีสิ่งแปลกปลอม..วุ๊ย!!
ต่อมามีการจัดตั้งหน่วยจัดการต้นน้ำขุนสถาน(1,100) เพื่อปรับปรุงระบบนิเวศน์บนที่รกร้างว่างเปล่าขึ้นมาอีกหน่วยหนึ่ง แล้วก็เกิดการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติขุนสถานขึ้นมาอีกแห่งหนึ่งเพื่อครอบคลุมพื้นที่ป่าต้นน้ำที่รกร้างและยังเหลือป่าบางส่วนอยู่ พื้นที่ 400,000 ไร่ ด้วยหวังว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวและปกป้องผืนป่าอนุรักษ์ ดังนั้นถ้าท่านขึ้นไปจากทางอำเภอนาน้อยท่านจะพบกับหน่วยจัดการต้นน้ำก่อน แล้วจึงถึงอุทยานแห่งชาติเป็นลำดับที่สอง ส่วนสถานีวิจัยอยู่ในลำดับที่สามสูงสุด
ที่นอนเยี่ยมเลย
พนักงานชาวไทยเชื้อสายม้ง น่ารักมากๆ
ที่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ปาดดอยลูกหนึ่งสร้างบ้านพักกึ่งถาวรนอกงบประมาณบ้านพัก มีที่ทำการโรงครัว และลานกางเต็นท์กว้างขวาง เป็นจุดที่มองเห็นได้ในมุม 180 องศา ลมพัดแรง แสงแดดสาดส่องจากทิศตะวันออกจัดจ้า แต่จะไม่เห็นพระอาทิตย์ตกดินเพราะว่าที่ตั้งอยู่ต่ำกว่าสันปันน้ำ
ภาพที่สวยงามจึงอยู่ที่ยามเช้า อากาศเย็นสบาย ได้ความรู้สึกที่ดี มีกำลัง
ภาพที่ย่ำแย่คือภาพไร่กะหล่ำปลี ถ้าเน่าก็ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง กลิ่นยาฆ่าแมลง ปนเปื้อนสารพิษที่จะตกค้างอยู่บนเทือกเขาสูง อันเป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำน่าน และแม่น้ำยม 
ยามเช้า.........พี่ก็เฝ้าคิดถึงน้อง...แอ๋ว
ยามบ่าย...พี่วุ่นวายถึง...สุรา........แฮะๆ เอิ้ก!!
อุทยานแห่งชาติขุนสถานยังอยู่ในระยะเตรียมการจัดตั้ง รอการประกาศอยู่ การตกแต่งพื้นที่อุทยานแห่งชาติใช้พันธุ์ไม้ต่างถิ่น เช่นต้นเทียนทอง เป็นหลัก
ซึ่งทุกอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์นิยมกันมากเพียงการเริ่มต้นก็ผิดเสียแล้ว หากปล่อยไว้ต่อไปจะผิดไปอีกสักแค่ไหน
โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยให้ร้องคาราโอเกะได้อย่างกับร้านคาราโอเกะ ฮ่วย!!
ไร่กะหล่ำปลีกับสารเคมีตกค้าง..สยอง
ยามเช้า มีนกให้ชม เยอะเลย
สิ่งที่น่าส่งเสริมคือการเล่นรอบกองไฟ(รมว.ปองพลเคยห้าม..อ้างว่าจะทำให้เกิดไฟไหม้ป่า วังเวงจริงๆ) ดีดกีต้า ตบมือ ร้องคลอเบาๆ ไม่ไปรบกวน (ตีน) คนอื่นๆเขา
การนอนดูดาวและนับดาวก็เป็นความสุขสนุกอีกแบบหนึ่ง การดูนกและศึกษาพันธุ์ไม้ บนเส้นทางการเดินป่าฝ่าดงดอยขึ้นไปยังดอยสูงๆ เช่นดอยจวงประสาท(ว่ากันว่ามีสนามบินโบราณอยู่ ซุกซ่อนอยู่ในดงป่าสนสามใบ) หรือดอยธง เป็นออฟชั่นที่เรียกความสนใจได้
บนเทือกเขาขุนสถานยังมีกวางม้าฝูงใหญ่เหลือรอดจากคมลูกปืนชาวม้ง ด้วยคุณมนตรี พุทธวงศ์ เคยขอมติร่วมกันไว้ สมควรสานต่อเจตนารมณ์ที่ดี และใช้ประโยชน์ให้เกิดความผูกพันที่ดีระหว่างคน สัตว์ และป่าเขาลำเนาไพร
ก็อาจจะเป็นทรัพยากรท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นไม่น้อย แต่อุทยานแห่งชาติต้องศึกษาและเรียนรู้การเข้าถึงเขาให้ได้อย่างเป็นมิตร 
บ้านพักเก๋ดี แต่ไม้ต่างถิ่นแย่จัง
รูปแบบการพัฒนาที่ผิดหลักการ
ในพื้นที่บ้านม้งขุนสถานมีน้ำตกอยู่แห่งหนึ่ง(ไม่ทราบชื่อ) แต่ก็ยังไม่มีป้ายบอกทาง และรอบๆพื้นที่ที่ไปน้ำตก ยังมีทุ่งข้าวม้งปลูกอยู่ มีวิถีชีวิตการปลูก เกี่ยว และนวดข้าวตามแบบอย่างดั้งเดิมอยู่ ก็น่าจะเป็นจุดขายได้เหมือนกัน ส่วนเรื่องการละเล่นของชาวม้งนั้น มันขึ้นอยู่กับความสามารถของหัวหน้าอุทยานแห่งชาติขุนสถานจะผูกสมัครให้เกิดความสมานย์ได้มากน้อยเพียงใด
แต่สำหรับผมเชื่อมั่นว่า วิถีชีวิต วัฒนะธรรมการแต่งกาย และศิลปะการแสดง ของชาวม้ง เพิ่มสีสันการพักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวบนอุทยานแห่งนี้ได้ 
สนุกสนาน เบิกบานใจวัยโจ๋
ต้นเทียนทองที่นิยมกันมาก ฮ่วยๆๆ
ในพื้นที่ความสูงระดับนี้สามารถปลูกประดับด้วยพันธุ์ไม้ป่าเมืองไทยหลากหลายชนิดได้ เช่น ไม้ยืนต้นเช่น นางพญาเสือโคร่ง กัลปพฤกษ์(ดอกดกทนนานเป็นเดือนๆ บนขุนสถาน) กุหลาบพันปี กุหลาบแดง ดอกสามสี(กุหลาบดอกสีขาว) สารภีดอย ทะโล้ ฯลฯ
ขึ้นอยู่กับ "กึ๋น" ของหัวหน้าอุทยานแห่งชาติและสำนักอุทยานแห่งชาติอันเป็นต้นสังกัด
ถัดลงไปในหุบห้วยที่ชุ่มเย็นมักมีต้นทองหลางป่าออกดอกสีแดงอมส้มสวยเด่นเป็นระยะ ในช่วงปลายหนาว ถ้าเพิ่มปริมาณต้นให้หนาแน่นและวางไว้ในจุดที่ชวนมองก็เพิ่มความสวยงามของขุนเขาได้อีก นกหลายชนิดชอบบินเข้ามากินน้ำหวาน
ได้ทั้งดอกไม้สวยแล้วยังได้ชมนกอีกด้วย
ทองหลางป่า ดอกแดงสด
นอกจากนี้ยังมี ต้นกวาวเครือแดง แต่ออกดอกแดงอมส้มสดใสไปทั่วทิวยอดไม้ บางจุดหนาแน่นมาก ถ้ามีการจัดการที่ดี จะมีดอกกวาวเครือแดงกระจายไปตามต้นไม้ทุกต้น อะไรจะเกิดขึ้นครับ ต้นกวาวเครือแดงเป็นไม้เลื้อขนาดใหญ่ มีคุณค่าสมุนไพรมากมาก โดยเฉพะเรื่องการบำรุงกำหนัด ช่วยให้บุรุษแข็งปั๋ง (ส่วนกวาวเครือขาว ทำให้สตรีเต่งตึง และใหญ่ขึ้น)
ส่วนไม้เลื้อยขนาดใหญ่อีกชนิดหนึ่ง ท่านจะเห็นมันออกดอกสีชมพูห่มคลุมไปตามยอดต้นไม้ กระจายอยู่ทั่วไปในป่าที่ระดับต่ำลงกว่า 1,000 เมตร เรียกว่า ต้นเครือออน จะเห็นว่าธรรมชาติเสกสรรค์ให้มาแล้ว แต่ว่าน้อยไปหน่อย ถ้านำมาปลูกเป็นซุ้มเลื้อยใกล้ตัว หรือให้ร่มเงาชิงช้าไม้ หรือทางเดินระหว่างจุดต่อจุด 
กวาวเครือแดง.....บุรุษจะแข็งปั๋ง
เครือออน.......หวานซึ้ง
ดีใจมากเมื่อได้ทราบจากพนักงานอุทยานว่า ปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งไว้รอบๆพื้นที่มากมายหลายร้อยต้น โปรดรอคอยเพื่อไปชื่นชมกัน สีชมพูหวานเจี๊ยบ
ในช่วงเวลานั้นยังมีนกสีสวยๆตัวเล็กๆ บินฉวัดเฉวียนเปลี่ยนกันเข้ามากินน้ำหวานให้คอยส่องดูด้วย
เพียงการเริ่มต้นก็ผิดเสียแล้ว หากปล่อยไว้ต่อไปจะผิดไปอีกสักแค่ไหน โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยให้ร้องคาราโอเกะได้อย่างกับร้านคาราโอเกะ และพันธุ์ไม้ต่างถิ่น
อุทยานแห่งชาติขุนสถานจะเป็นอุทยานแห่งชาติที่เพียงแต่ขายหนาวหรืออย่างไร ทรัพยากรท่องเที่ยวจะหยิบจับอะไรออกมาขายได้บ้าง เป็นเรื่องที่น่าติดตาม ไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม อุทยานแห่งชาติเสกสรรค์ได้ทุกรูปแบบตามหลักการจัดการอุทยานแห่งชาติ ที่ควรจะต้องคงเอกลักษณ์ของคำว่าป่าอนุรักษ์เอาไว้ให้ได้ มันไม่ใช่รีสอร์ทครับ
เหลือป่าตรงยอดแหลมหน่อยหนึ่ง ฮึ
ข้อมูลจำเพาะ
|
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน |
|
|
|
การเดินทางด้วยรถยนต์ |
|
ใช้เส้นทางจากตัวจังหวัดแพร่ได้ 2 เส้นทาง คือ |
ง