หน้าแรก
เว็บบอร์ด
บทความ
รวมรูปภาพ
ติดต่อเรา
ข่าวสาร
บ้านผาสวรรค์ รีสอร์ท
ทองผาภูมิ กาญจนบุรี
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
เพื่อนรุ่นลูกมาชวนไปพักแรมที่บ้านผาสวรรค์ รีสอร์ท อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี มีหรือจะขัดใจได้ แต่เมื่อไปถึงแล้วกลับรู้สึกอยากขอบคุณที่ชวนไปด้วย และเมื่อได้เดินชมและพักค้างอ้างแรม จึงรู้ว่า ที่นี่เป็นรีสอร์ทใหม่ที่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเลย มีความเป็นมาน่าสนใจ เมื่อได้พูดคุยกับเจ้าของบ้าน ดร.ไพโรจน์ สุขจั่น ผู้บุกเบิกตัวจริง
คุณภูตะวัน ดร.ไพโรจน์ และ พิธีกร แจน-สุรางรัตน์
บ้านผาสวรรค์ รีสอร์ท ตั้งอยู่ที่ 55 หมู่ 5 ต.สหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี สนใจก็ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด โทร.084-4352910 และ 086-5215555 มีเว็บไซต์ให้ชมภาพตัวอย่างและรายละเอียดที่พักและราคา www.banphasawan.com ผู้จัดการทั่วไป คุณภูตะวัน สุวรรณบูลย์ โทร.087-9659555
บ้านแก้วมังกร สีสดสวย
บ้านมังคุด คุดรักนักหนา
ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับดร.ไพโรจน์ สุขจั่น จึงได้ความรู้ว่า เดิมทีเดียว ก็ท่องเที่ยวไปทั่วที่ไหนเป็นป่าเขาลำเนาไพรชอบ เพราะว่าใจนั้นรักต้นไม้ใบหญ้า ปลูกจนที่บ้านบัวทองร่มรื่นไปแล้ว ได้เข้ามาเที่ยวที่บ้านสหกรณ์นิคม แล้วติดใจที่ดินผืนนี้ มีภูเขาโอบล้อม ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้บนเขาสูง ประการสำคัญมีลำธารที่น้ำไหลตลอดปีและติดถนนสายหลักของสหกรณ์นิคม จึงซื้อไว้ 6-7 ไร่ ลงมือปลูกต้นไม้ผลตามความอยาก เช่น เงาะ ลิ้นจี่ ทุเรียน มะม่วง และกล้วย
บ้านนี้นอนแล้วเป็นคนมีสับปะรด
บ้านเงาะโรงเรียนทองผาภูมิอร่อยสุดๆ
บ้านหรือ ก็ปลูกเป็นกระท่อมไม้ไผ่ ผ่าคว่ำหงายย่างภูมิปัญญาท้องถิ่น ไม้ไผ่ลำใหญ่ๆเยอะมาก หาได้ไม่ยาก แต่ทนทานไม่น้อยทีเดียว ก็มีความสุขมากกับการได้เข้ามาพักแรมที่นี่ แต่พอถึงฤดูหนาวซิหนักเลย เพราะว่าหนาวมากน่าจะมีผลพวงมาจากป่าไม้ยังหนาแน่น ต่อมาได้ซื้อขยายออกไปอีก นับร้อยไร่ ปลูกผลไม้ส่วนหนึ่งปลูกยางพาราอีกส่วนหนึ่ง
บ้านหน่อไม้ไผ่บง ครอบครัวใหญ่ๆนอนได้
พอมีบ้านสวน เมื่อหายหน้าหายตาไปจากหมู่เพื่อนฝูง ก็เกิดความสงสัย จนในที่สุดก็ต้องชวนเพื่อนๆเข้ามาเยี่ยมยาม ความแตกตื่นเกิดขึ้นเมื่อทุกคนพึงพอใจ ในที่สุดก็ต้องสร้างบ้านพักให้พอกับปริมาณเพื่อนๆที่อยากขอเข้ามาเที่ยวพักผ่อน แรกเลยก็อยากแสดงความเป็นเจ้าของอุทยานไม้ผล ก็หาช่างมาปั้นห้องพักเป็นผลทุเรียน สับปะรด มังคุด เงาะ แก้วมังกร แล้วก็ลามไปถึงบ้านไม้ไผ่ บ้านตอไม้ บ้านถ้ำ บ้านหิน และบ้านท่อนซุง ชมชอบกันใหญ่
บ้านตอไผ่ตงก็นอนได้นับสิบคน
หลังสุดนี่กำลังดัดแปลงเป็นบ้านทาร์ซานบนตอไม้ ก็ใช้งานปูน แต่ตกแต่งให้กลมกลืนกับธรรมชาติ กำลังสร้างอยู่ 2 หลัง ใกล้ๆกันก็สร้างบ้านตอไผ่แทนหน่อไม้ เป็นบ้านขนาดใหญ่พักได้หลายคนมากๆ มีดาดฟ้าโล่งๆให้ใช้เป็นที่นั่งตากอากาศ และรับประทานอาหาร หรือนั่งดื่มสังสรรค์กันในหมู่ผู้ที่เดินทางมาด้วยกัน
เรือนใหญ่ไม้สักทอง
หนักเข้าต้องสร้างบ้านหรูพิเศษ มีทั้งหลังเดี่ยวๆและหลังใหญ่ๆหลายชั้น สร้างด้วยไม้สักราคาแพง ตกแต่งด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสุดหรู แต่กลมกลืนกับธรรมชาติ เป็นบ้านพักที่แรกๆก็ใช้เป็นที่รับแขกผู้ใหญ่ แต่เมื่อมีจำนวนบ้านพักมากขึ้น พนักงานเจ้าหน้าที่เพิ่มมากขึ้น คนสวนต้องจ้างไว้ประจำทำงานทั้งปี แม้แต่แม่ครัวทำอาหารเลี้ยงแขก ก็ต้องจ้างชนิดฝีมือดีหาตัวจับยาก ค่าตัวแพง จนได้คุณภูตะวันเข้ามาช่วยบริหารงานให้ก็เบาแรงไปโข
บุด้วยปีกไม้สักหรู
ยามเช้า สวยมั้ย
จากบ้านผาสวรรค์มุงหลังคาด้วยไม้ไผ่ ฝาบ้านไม้ไผ่ กลายเป็นบ้านหรูสารพัดรูปแบบ มันก็เลยกลายเป็นรีสอร์ทไป จึงตั้งชื่อว่า บ้านผาสวรรค์ รีสอร์ท ต้นไม้หรือ โอ้ โฮ ปลูกมากมาย เป็นต้นไม้ยืนต้นที่มีดอกหอมเสียส่วนใหญ่ และเป็นต้นไม้ที่หายาก ล่อแหลมต่อการสูญพันธุ์ กลายเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องพันธุ์ผลไม้และพันธุ์ไม้ดอกหอมที่น่าสนใจ ผมเองชอบปลูกต้นไม้ด้วยว่าดั้งเดิมเป็นลูกเกษตรกรชาวนาแถวบางบัวทองไง
บ้านตอไม้ขนาดใหญ่ สดใสน่านอน
ต่อมาซื้อที่ดินได้กว้างขวางขึ้นก็ตกแต่งให้เป็นทั้งศูนย์เพาะชำกล้าไม้ขายริมถนนหน้ารีสอร์ท ตรงไหนเป็นห้วยน้ำใสไหลผ่านก็สร้างสะพานแขวนเก๋ๆแต่งเติมเข้าไป เพื่อให้เพื่อนๆที่เข้ามาได้เดินเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้บรรยากาศเนียนๆ ตราบทุกวันนี้ ผมไม่มีทางเลือกอื่นอีกเลย ต้องสละบ้านให้เป็นรีสอร์ทเพื่อให้ตัวมันเองเลี้ยงตัวมันได้ ผมมีเพื่อนร่วมงานมากขึ้น ทุกชีวิตมีภาระรับผิดชอบ มีพ่อแม่ มีลูกเต้าและสามี มีความจำเป็นที่ต้องมีเงินเพื่อหล่อเลี้ยงกันไปได้ แม้ว่าจะได้ไม่มากกว่าที่ควรได้
บ้านหน่อไม้กิมซุง ริมสระกลางรีสอร์ท
ตรงกลางพื้นที่ ผมต้องตัดใจขุดสระใหญ่เพื่อให้เป็นแหล่งรับน้ำสำรองไว้ใช้สอย และพัฒนาให้เป็นแหล่งพักผ่อนของลูกค้ากลุ่มหนุ่มสาวและเด็กๆ มีศาลากระจายไปทุกหย่อมที่มีน้ำ ทั้งรอบแนวขอบสระ และชายห้วยชายลำธาร ผูกเปลยวนทิ้งไว้บ้าง ชิงช้าง่ายๆไว้บ้าง บางทีก็ตั้งโต๊ะเก้าอี้แบบสนาม มีทั้งโต๊ะไม้และโต๊ะหินปูน ปลูกหญ้าเขียวขจี มีทั้งไม้ใบและไม้กลิ่นหอมหายากปลูกประดับไปทั่ว
บ่าย แสงสวย ถ่ายรูปได้สวย
ทุกมุมมีแสงสวยๆให้ถ่ายรูป
ผมฟังดร.ไพโรจน์เล่าไปจนเพลินแทบลืมถ่ายรูป ต้องตั้งสติแล้วขอตัวไปถ่ายรูป ไม่งั้นจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่า สวยงามจริงสมคำเล่าขาน บ่ายวันนั้น ผมจึงเดินถ่ายรูปไปทีละมุมๆ บางทีเห็นแสงสวยจับใจก็ไหว้วานสื่อสาวสวยที่มาด้วยกัน ช่วยมาเป็นนางแบบให้หน่อย เพื่อนสาวก็ใจดีเหลือใจ เข้ามาเติมเต็มช่องที่ผมเว้นเอาไว้ว่า เธอยืนตรงนั้นตรงนี้ จะได้ภาพสวยแน่ๆ ลองดูภาพสาวสวย(พิธีกรสาวพาฝัน) และนางไม้น่ารัก(สาวแจน-สุรางรัตน์) เอาก็แล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่า โม้ ตาแก่ขี้โม้
ริมลำธารน้ำใสๆ
นี่ไงเจอแล้ว
ผมถ่ายภาพยามบ่ายจนหนำใจแล้วผมก็ไปอาบน้ำ นอนพักผ่อนกับแอร์เย็นฉ่ำ แล้วก็ออกมากินข้าวค่ำ ร่วมกับเพื่อนๆ อร่อยจนอิ่มเกิน แน่นจนขึ้นไปร้องคาราโอเกะไม่ไหว ต้องนั่งร้องไปแบบสะลึมสะลือ ได้เวลาไปพักผ่อนก็ถอนใจและกายออกจากแหล่ง นอนชมทีวีที่มีเรื่องราวน่ารักน่าสนใจ หลับไปกับแอร์เย็นๆ ที่นอนนุ่มสบาย
บ้านท่อนไม้ซุง เก๋จริงๆ
ตื่นเช้าตรู่ เปิดประตูออกมาสัมผัสกับอากาศเย็นสบาย ถ้าฤดูหนาวเดือนหน้านี้จะเป็นอย่างไรหนอ จินตนาการว่าอากาศคงเย็นเฉียบ หมอกคงลงคลุมไปทั่ว ลมหายใจต้องมีหมอกพวยพุ่งออกมา ใบไม้ทุกหย่อมหญ้านวลด้วยสายหมอก น้ำค้างหยดเหยาะอยู่ทั่วเรือนยอดต้นไม้ นักท่องเที่ยวคงเดินเที่ยวแล้วก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก คิดแล้วอยากมาอีกจริงๆ
ดอกภู่จอมพล
ผมเดินไปรอบๆรีสอร์ทอีกครั้ง บันทึกภาพสวยงามยามเช้าไว้ในไฟล์ แล้วก็เดินข้ามไปสะพานแขวน ถ่ายรูปต้นภู่จอมพล ถ่ายรูปเพื่อนๆที่เดินข้ามสะพานแขวนไปต้องหมอกจางๆ แล้วก็เลยเดินคุยกับดร.ไพโรจน์ จนไปเจอลำธารน้ำใสไหลเย็นฉ่ำชื้น มีต้นเฟิร์นขึ้นเกาะตามลำต้นไม้ใหญ่ เป็นไม้อิงอาศัยที่เติมแต่งให้ป่าสวยงามยิ่งขึ้น เป็นองค์ประกอบหนึ่งของผืนป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นมิติเมื่อถ่ายภาพประกอบกันกับมนุษย์
ดร.ไพโรจน์ สุขจั่น หล่อจริงๆ
ผมเห็นลำแสงพระอาทิตย์ยามอรุณเบิกฟ้า ผมเห็นไรผมมีเงาสะท้อน ผมเห็นใบเฟิร์นเกาะเกี่ยว ผมตัดสินใจขอร้องให้ ดร.ไพโรจน์เป็นนายแบบให้ทันที ผมได้ภาพนี้มาหล่อซะไม่มี ที่จริงมีภาพอีกหลายท่ากระบวนความ ล้วนหล่อลากดิน ผมหันไปเห็นสาวสวย น้องแจน พิธีกรสาว IPM.ช่อง อินไซด์ท่องเที่ยว แกล้งขอแต่เธอรีบมาเป็นนางแบบให้เลย
มุมที่ถ่ายภาพได้สวยทุกคน ดูพิธีกร สุรางรัตน์ รักสุข ซิครับ
พิธีกรสาว อีทีวี พาฝัน ปิ่นทอง
ในสภาพของธรรมชาติที่มีแสงอ่อนๆยามเช้า หรือใกล้สนธยา ก็ชวนให้หลงใหลไปกับการบันทึกภาพได้เหมือนกัน ผมเดินข้ามสะพานแขวนมาอีกฝั่ง เหลียวหลังกลับไป โอ้ สามสาวหนุ่มกำลังยืนแบบไม่ได้ตั้งท่าแข็งๆ ก็เลยกดซะอีกสามสี่ภาพ ธรรมชาติๆ นี่ถ้าเป็นเดือนหน้าหนาวจัดๆจะสวยขนาดไหน
สะพานแขวนกับหมอกจางๆและแสงอ่อนๆ
เดินกลับไปหน้ารีสอร์ท เห็นบ้านตอไม้ใกล้ๆลำธาร สวย แต่ละหลังที่สร้างล้วนแตกต่าง มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละหลัง ตกแต่งด้วยต้นไม้แปลกๆ มีทั้งต้นไม้ยืนต้นใบสวยและมีทั้งไม้ใบพุ่มเตี้ยๆ แต่บอกตามตรง ที่บ้านผาสวรรค์ รีสอร์ทตั้งสโลแกนไว้ว่า อุทยานไม้หอม อุทยานไม้ผล นั้นไม่ผิดประเด็นเลยทีเดียว
ไม้ประดับสวย
“เมื่อก่อนนี้ ใครมาเที่ยวก็กินผลไม้ได้เต็มที่ กินแล้วก็ยังขนกลับไปกินที่บ้านกันอีก เพื่อนๆก็เลยยิ่งชื่นชอบ ผมก็ยิ่งปลูกไม้ผลมากขึ้น เอาไว้ให้เพื่อนๆกินและเป็นของฝากจากสวน” ดร.ไพโรจน์กล่าวเบาๆด้วยรอยยิ้มอย่างคนมีความสุขกับการให้ 
ตักบาตรพระสงฆ์ร่วมกัน
ตากล้องรีสอร์ท น่ารักทั้งแม่ทั้งลูก
เช้าๆ มีพระมาบิณฑบาตรที่รีสอร์ททุกวัน ขบวนคนใจบุญจึงรีบไปตักบาตรกันที่หน้ารีสอร์ท เป็นอีกมิติที่ได้จากบ้านกลางป่าเขาแห่งนี้
ระเบียงเรือนไม้สักหลังใหญ่
สายเต็มแก่ ถึงเวลาต้องลาจาก แต่วันนี้บ้านผาสวรรค์ไม่มีผลไม้สดฝากให้กลับไปกินกันเลย ด้วยว่าช่วงเวลาที่พวกเรามานี้พ้นฤดูกาลไปหยกๆ เหลือเพียงรอยอาลัยที่ได้มาเยี่ยมเยียนกัน สัญญากันว่าหนาวนี้อยากให้มากันอีก
สื่อเฮ สื่อฮา
และเมื่อต้องเปิด บ้านผาสวรรค์ รีสอร์ท อย่างเป็นทางการใน วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556 ถึงวันนั้น บ้านผาสวรรค์ รีสอร์ท มั่นใจในความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพรและน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ต้องมาที่นี่เลย
เตียงนอน ผ้าปูเตียงตึงเปรี๊ยะ
เรือนเดี่ยวหลังเล็กๆ ก็หรู