หน้าแรก
เว็บบอร์ด
บทความ
รวมรูปภาพ
ติดต่อเรา
ข่าวสาร
ไปดูแข่งเรือยาวที่เมืองนนท์
ชมศาลากลางไม้สักทองและไหว้เจ้าที่ศาลเจ้าริมน้ำ
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
เห็นป้ายโฆษณาข้างถนนรัตนาธิเบศก์ 5-7 พย.53 แข่งเรือยาวมาราธอนหน้าศาลากลางเก่าเมืองนนทบุรี ติดอยู่ในใจ
กลับมาถึงนิวาสสถานข้างศาลากลางหลังใหม่ นอนดูUBC+อินเตอร์เนทหลายเรื่อง คิดไม่ตกว่า เช้าจะไปไหนดี ในเมื่อน้ำท่วมไปทั่วบ้านทั่วเมือง
ตื่นมาเกือบแปดโมงเช้า ตัดสินใจสะพายเป้กล้องถ่ายรูปใส่หลัง เดินดุ่มออกจากบ้านยังตัดสินใจไม่ได้ เรียกแท็กซี่ขึ้นนั่งจึงตอบไปแกนๆว่า ไปหน้าศาลากลางเก่าเมืองนนทบุรีละกัน
ไปดูเรือยาวมาราธอน 8,400 เมตร ไม่คาดหวังอะไร แต่ก็คงจะได้เรื่องราวมาเล่าให้อ่าน
หอนาฬิกาหลังเก่าแก่ นักท่องเที่ยวต่างชาติ
ตลาดเมืองนนทบุรีนี้ เคยเป็นอยู่อย่างไรก็เป็นอยู่เช่นนั้น มันพัฒนาอะไรไปมากกว่านี้ก็ไม่ได้ ถนนที่เคยมีสองเลน ก็ยังมีอยู่อย่างนั้น วิ่งไปชนริมน้ำก็ต้องวนระอ้อมหอนาฬิกาหลังเก่า เลี้ยวซ้ายไปหน้าเรือนจำบางขวางทะลุออกถนนรัตนาธิเบศก์
ที่ท่าเรือริมน้ำนนทบุรีปรับปรุงอาคารใหม่สวยงามมากขึ้น แต่วันนี้น้ำท่วมจนต้องสร้างสะพานไม้ให้ประชาชนเดินข้าม ใกล้ๆท่าเรือมีร้านรวงที่ขายอาหารการกินทั้งคาว ทั้งหวาน และผลไม้ท้องถิ่นมากเหมือนเดิม
เรือยาวซ้อมฝีพายกัน
ริมชายน้ำหน้าศาลากลางหลังเก่าทอดยาวเหมือนเดิม แต่วันนี้น้ำท่วมขัง เทศบาลนครนนทบุรีตั้งอัถจรรย์ให้พ่อแม่พี่น้องที่นิยมเรือแข่งนั่งกันยาวเหยียดตลอดชายน้ำ กองโฆษณาการประกาศเสียงดังก้องไปทั้งคุ้งน้ำ เรือยาวมาจากหลากหลายท้องที่ เช่นจังหวัดร้อยเอ็ด พิจิตร อ่างทอง ลพบุรี สุราษฎร์ธานี นนทบุรี สมุทรสาคร เพชรบุรี ฯลฯ ชุมนุมเรือแข่งจากทั่วประเทศว่างั้นเถอะ
น้ำท่วมหน้าศาลากลางหลังเก่า มุมงามๆในศาลากลาง
ผมนั่งรอเดินรอ แล้วก็ตัดใจเดินไปเยี่ยมชมศาลากลางหลังเก่าที่สร้างด้วยไม้สักทอง เป็นศาลากลางที่สวยงามที่สุดจนต้องอนุรักษ์เอาไว้ อาคารไม้สองชั้น มีหลังคาที่มุงด้วยกระเบื้องขอแบบเก่าแก่ ระเบียงเดินทอดยาวลูกกรงระเบียงและการวางผังอาคารที่ทำให้ดูมีเสน่ห์ เป็นภูมิปัญญาช่างไทยโบราณ วันนี้ ตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองนนทบุรีให้เยาวชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาศึกษาหาความรู้
หลากหลายมุมในศาลากลางเก่า
เวลายังเหลือ ผมเดินตามฝีพายหลากสีสันไปเรื่อยๆ เห็นแพอาหารเจ้าเก่ายังเปิดบริการอยู่ ขึ้นแพไปหามุมจะถ่ายรูปแต่โทษที มีป้ายติดโฆษณาคำว่า ไม่สูบ ไม่ดื่ม บดบังไปทุกมุม จึงเดินลงมา แล้วก็เห็นป้ายประตูศาลเจ้าขนาดใหญ่ สีสันสดใส ตัดสินใจเดินเข้าไปชม เป็นศาลเจ้าของชาวจีนนนทบุรีที่ร่วมแรงร่วมใจสร้างกันขึ้นมาใหม่ จนดูสวยงามและยิ่งใหญ่อลังการเอาการอยู่
ศาลเจ้าของชาวจีนใกล้ๆศาลากลาง
มีชาวจีนเข้าไปกราบไหว้ประปราย เชื่อว่าถ้าเป็นเทศกาลของชาวจีน คงจะมีผู้เคารพนับถือมาไหว้กันเต็มไปทั้งลานกว้างๆข้างหน้าแน่นอน รูปเคารพที่ประดิษฐานอยู่นอกศาลเจ้าและในศาลเจ้าแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมประเพณีของแต่ละศาล เช่นด้านหน้าขวามือเป็นศาลเจ้าแม่ทับทิม ศาลแปะกงม่า ส่วนด้านในก็เป็นเทพเคารพแตกต่างไปเช่นกัน
กราบไหว้ได้สิริมงคลทุกครั้ง
ด้านหน้าสุดมีกระถางธูปรูปทรงแบบน้ำเต้าจีนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ กลิ่นควันธูปหอมกระจายไปทั่ว มีราวเหล็กให้ปักเทียนอยู่ด้วย ส่วนจะใช้เทียนแดงหรือเทียนเหลืองไม่มีข้อจำกัด การไหว้ตามธรรมเนียมจีนก็มีรูปลักษณ์หนึ่ง หากสังเกตจะเห็นว่า แตกต่างจากการไหว้ของชาวไทยพุทธ อย่างไรก็ดี ถ้าถึงวันไหว้ตรุษจีน สาตรจีน คงได้ภาพมาฝากกัน ในหน้าต่างวัฒนธรรมประเพณีจ้า
ผมเดินกลับไปหน้าศาลากลางอีกครั้ง เห็นนักชมเรือแข่งเต็มอัถจรรย์ เหล่มุมกล้องไว้แล้วว่าถ้าเรือเริ่มแข่งจะถ่ายรูปตรงไหนดี เวลายังเหลือผมเดินลงท่าเรือแล้วโดยสารเรือข้ามฟากไปกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ถ่ายรูปกลับมายังสนามแข่งเรือยาวมาราธอน ถ้าขึ้นท่าผมต้องจ่ายเงินค่าโดยสารเรือ แต่ไม่มีธุระอะไร ผมก็เลยนั่งเรือกลับมาขึ้นท่าเดิมอีกครั้ง แฮะๆๆ ฟรีครับ
ประเพณีการแข่งเรือยาว
เรือแข่งแล้ว โฆษกส่งเสียงดังลั่นแม่น้ำ ผมเดินไปยังมุมที่เหล่ไว้ ถ่ายได้รูปที่มีโฟร์กราวน์เป็นลูกทุเรียน 2 ลูก และเรือแข่งสองลำกำลังขับเคี่ยวกันเต็มฝีพาย เสียงนักพากย์เรือแข่งดังสนั่นลั่นแม่น้ำ ทุกอย่างหยุดนิ่ง เฝ้ามองตามฝีพายที่จ้ำพรึดจ้ำพรึด ส่วนเรืออะไรเข้าแท่นชนะบ้าง เรืออะไรไม่เข้าบ้าง จดไม่ทัน แต่ก็พอสรุปได้ว่า
เรือยาวมาราธอน 55 ฝีพาย ระยะทาง 8,400 เมตร ชนะเลิศได้ถ้วยรางวัลไปคือเรือ เจ้าแม่ประดู่ทอง ตามมาด้วยพญาชาละวัน และTOT3Gหนุ่มเมืองนนท์ เฮ!
จ้ำพรึด จ้ำพรึด
ส่วนเรือแข่งประเภทเรือยาว 55 ฝีพาย ได้ที่หนึ่งคือ TOT3G หนุ่มเมืองนนท์ ตามมาด้วย อัครนาวา สมุทรสาคร และเจ้าแม่ประดู่ทอง สุดท้ายเป็นการแข่งขัน 30 ฝีพาย ที่หนึ่งได้แก่ สาวโตชิบา ตามมาด้วย เทพศรีนครชัย อ่างทอง และเพชรประดู่ จากสุราษฎร์ธานี
ที่จริงยังมีอีกหลายรางวัล แต่เห็นว่ารายงานให้ทราบเพียงเท่านี้ ก็เพราะว่าเป็นการไปเที่ยวชมเรือแข่งตามเทศกาล เผื่อว่าปีหน้าฟ้าใหม่เมื่อเวลาเวียนมาบรรจบ คนที่อ่านพบและจดจำได้ ก็อาจจะไปเที่ยวเมืองนนท์ตามรายการนี้ ช่วงเวลานี้ จะได้ไม่เซ็งจนเกินไป แต่สรุปได้ว่าหมดเวลาไปวันหนึ่ง หมดแต่ค่ารถและค่าก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อยเมืองนนท์ 2 ชามเท่านั้นเอง ประหยัดดีเหมือนกัน เอ้า พวกเกษียนราชการแล้ว ว่างๆก็ไปเที่ยวดูก็ดี
ในการเดินทางมาร่วมแข่งขันกันนั้น เจ้าภาพต้องเอื้อเฟื้อเรื่องค่าใช้จ่ายของการบรรทุกเรือยาว ฝีพาย ที่พักแรม และเบี้ยเลี้ยงเป็นทุนสำรองให้ทุกทีม ส่วนถ้วยและเงินรางวัลที่ได้รับเป็นของเจ้าของเรือยาว(ส่วนใหญ่เป็นวัดต่างๆ) แต่จะไปแบ่งรางวัลให้กับฝีพายและทีมงานอย่างไร ไม่ได้รายละเอียดมาเล่าให้ฟัง ว่ากันว่า เมื่อมีการแข่งขันที่ไหน ย่อมมีการพนันที่นั่น อิอิ
การแข่งเรือยาว มีโฆษกเป็นทีม เรือแข่งสนุกหรือไม่สนุก อยู่ที่ทีมนักพากษ์ ว่าจะพากษ์มันไม่มันเช่นเดียวกับพากษ์มวยในสนามมวย