http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 25/01/2025
สถิติผู้เข้าชม14,657,313
Page Views17,017,143
« April 2025»
SMTWTFS
  12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930   
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เสือกลิ่นสาบ โดยอินทรี ดำ ตอน 21 สารวัตรใหญ่ขอร้อง(2)

เสือกลิ่นสาบ โดยอินทรี ดำ ตอน 21 สารวัตรใหญ่ขอร้อง(2)

เสือกลิ่นสาบ

โดยอินทรีดำ

ตอน21.  สารวัตรใหญ่ขอร้อง (2)

            นาฬิกาบนข้อมือซ้ายของมณีบอกเวลาตีสามเข้าไปแล้ว  อากาศเย็นลงจนสบายเนื้อสบายตัว ยังไงเสียคืนนี้ไม้คงจะไม่ลง แต่แล้วก็มีเสียงรถวิ่งมาด้วยความเร็วจากทางนาน้อย เป็นรถกระบะสีเขียว พอมาถึงด่านก็จอดพรืด คนขับเปิดประตูรถแล้วเดินดิ่งมายกมือไหว้มณี ๆ รับไหว้แล้วร้องทัก “อ้าว!”

            “หัวหน้าครับ ผมถูกบังคับให้เอารถสาลี่สองคันขึ้นไปบรรทุกไม้ลงมา ไม่งั้นผมก็มีปัญหาครับ” 

             นายแท้ผู้รับช่วงชักลากไม้ของบริษัททำไม้นั่นเอง นายแท้เป็นคนที่บ้านไผ่ใกล้ๆ โรงเลื่อยอำเภอเวียงสา ซึ่งก็ผ่านเข้าผ่านออกหน้าสำนักงานพัฒนาป่าไม้ที่ นน.2 มาแต่ไหนแต่ไร มณีฟังนิ่งๆ

            “ผมจะทำยังไงดีครับหัวหน้า ” นายแท้พูดไปด้วยใบหน้าเศร้าหมองเต็มที

            “ผมเกรงใจสารวัตรใหญ่เหมือนกัน ท่านสั่งให้ผมไปพบเมื่อหัวค่ำ บอกผมว่าจะขนไม้สองคันรถ ขอให้ผมเปิดทางให้ แต่ผมได้รับคำสั่งมาจากป่าไม้เขตแพร่ต้นสังกัดให้มาเฝ้าดักจับ ผมไม่รู้จะช่วยได้อย่างไร แต่..จะรอจนสว่างแล้วจะขึ้นไปตรวจสอบ” มณีพูดเรียบๆ แบบว่าหนักใจมากเหมือนกัน

            “ผมลาละครับ” นายแท้ขึ้นรถกระบะได้ก็บึ่งขึ้นดอยผาชู้ไปทันที

            “สมชาย ประเสริฐ ทุกคนเตรียมตัว สว่างเมื่อไรก็ขึ้นไปดอยกันทันที”  มณีพูดไม่ค่อยเต็มเสียงนัก

           “บุกขึ้นไปจับเลยไหมพี่” ประเสริฐถาม

           “ปืนเต็มรถตำรวจนะ” สมชายติง

            มณีนั่งซึม  ยิงกันแน่ถ้าขึ้นไปจับ แต่ไม่จับหรือก็ลำบากใจ

            “เช้าจับ เอาให้เห็นหน้ากันจะๆไปเลย”  มณีพูดเสียงเข้ม     

             ทุกคนนั่งๆ นอนๆ ด้วยความกระสับกระส่าย ไม่สบายใจกันนักที่รู้ทั้งรู้ว่ามีรถไม้เถื่อนอยู่บนดอย ไม่จุดใดก็จุดหนึ่ง กำลังชักลากไม้เถื่อนผิดกฎหมายลงมาจังๆ ถ้าจับก็เป็นคดีใหญ่ ได้รถชักลากไม้อีกสองคัน แต่...............

            “พี่ รับปากสารวัตรใหญ่ไว้หรือครับ” ประเสริฐถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

            “ลูบหน้าปะจมูก เพื่อเห็นแก่หน้าเขา พี่ก็เลยบอกว่า ถ้าขนลงมาก็จับ ทางออกคือต้องทิ้งไม้ในป่าให้เราตามไปจับไม้ไม่มีตัว ช่วยได้แค่นี้”

            “ถ้าเป็นพวกเราจะทำยังไง กินเหล้าก็กินด้วยกัน ไปมาหาสู่กันเหมือนพี่น้องผองเพื่อน ไอ้สาไอ้อ้วนยกพวกไปตีกันบนวงรำวงหน้าโรงพักเขาๆ ก็ยังไม่เอาเรื่อง พวกมึงจำเรื่องได้ไหม” มณีถามไอ้สา

            “ได้ครับ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเป็นคนของสำนักก็คงโดนคดีกันทั้งคู่ อ้อ! ไม่ใช่ครับ ทั้งหมู่บ้าน” สมชายฟังแล้วงงๆ มองหน้าคนนั้นทีคนนี้ที

            “ไอ้สากับไอ้อ้วน พาชาวบ้านไปเต้นรำวงหน้าโรงพัก เขามีงานวันตำรวจ หาเงินการกุศล แต่ดันไปตีกันจนงานเขาพัง สู้เขาไม่ได้ไอ้เวรคู่นี้ยังกลับมายกพวกไปตีกับเขาอีก พี่ก็พูดไม่ออกเลย ยังต้องไปกราบขอโทษและขอบคุณเขาที่ไม่เอาเรื่อง”   มณีเล่าให้สมชายฟัง

            “ใช่ๆ ๆ ผมก็ไปด้วย”  เผ่นพูดขึ้น สมชายหัวเราะดังลั่น

            “มิน่า ผมถึงคิดไม่ออก ทำไมพี่ไม่ขึ้นไปจับทั้งรถทั้งไม้บนดอยเลย”   มณีมองหน้าสมชาย

            “ไอ้พวกนี้ก่อคดีไว้นี่เอง พี่ถึงอ่อนๆ แข็งๆ ” สมชายเติมความอึดอัด

            “อยู่บ้านป่าเมืองดอยก็ยังงี้ รู้จักกันหมด เหมือนเล่นเกมส์กันอยู่” ประเสริฐเอ่ยขึ้นบ้าง

            ฟ้าสางสว่างแล้ว  พวกเรายังรีรออยู่ที่เดิม แต่ก็เตรียมตัวจะออกทำงาน

           “หัวหน้า  มีรถวิ่งลงมาดังกระหึ่มเลย ผมว่ารถไม้ลงมาแน่นอน” ส่วนว่าพลางวิ่งถลาออกไปดักกลางถนน

            “เฮ้ย !  หลบเข้ามา เดี๋ยวแม่งย่ำเหลว” สมชายตวาด

            รถสาลี่ชักลากไม้สองคันวิ่งมาจอดตรงหน้าด่าน นายแท้วิ่งเข้ามาไหว้อีกที สักครู่ก็มีรถกระบะตามไปอีกคัน

            “ผมทิ้งไม้ก่อนถึง กม.16 นะครับ ทั้งสองคันครับ ผมเสี่ยงไม่ได้ ผมเจ๊งแน่ๆ ขอบคุณครับหัวหน้า” นายแท้ยกมือไหว้แล้วขึ้นไปบึ่งรถสาลี่ชักลากไม้กลับไปบ้านทันที   

            “ไปเถอะพวกเรา ไปจับไม้สารวัตรใหญ่แล้วไปส่งคดีให้กับสารวัตรใหญ่กันดีกว่า”

              สมชายตะโกนเสียงดัง เสียงหัวเราะดังครืนแล้วกระโดดขึ้นรถกันด้วยความฉับไว มณีหน้าหงิกยิ่งกว่าหน้าม้าหมากรุก

            สมชายบึ่งปีศาจขาวขึ้นดอยผาชู้ วิ่งไปก็บ่นไปตามสไตล์ มณีนั่งตรึกตรองเรื่องราวการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหัวหน้าสำนักพัฒนาป่าไม้ที่ นน.2 ด้วยความรู้สึกหมองหม่นย มันเป็นความยะโสโอหังที่ได้ควบคุมพื้นที่กว้างขวาง ได้ควบคุมทุกกิจกรรมในพื้นที่ ได้ควบคุมการทำไม้ของบริษัทสัมปทานทำไม้ และองค์การอุตสาหกรรมทำไม้ มีเจ้าหน้าที่ให้บริหารจัดการมากกว่า 20 คน โก้ไม่หยอก แต่เศร้าสลดฉิบ... มันกลับเป็นตราบาปที่ไถ่ถอนได้ยากเย็น

            “ตลอดเวลาปีกว่าๆ จับไม้รายใหญ่ก็หนีไม่พ้นไม้ตำรวจ สจ. ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน คหบดี ล้วนเป็นผู้มีอันจะกินและมีอิทธิพลในท้องถิ่นทั้งนั้น โรงพักเวียงสา นาน้อย และนาหมื่น มีทุกโรงพัก มีกระทั่งพวกเรากันเอง คิดแล้วกลุ้ม ทีนี้พอจับชาวบ้านส่งตำรวจชาวบ้านก็โดนตำรวจอัดเต็มที่ เขาได้เงินเราได้ความเกลียดชัง”  มณีบ่นดังๆ

            พอรถข้ามสันดอยผีปันน้ำ กม.16 ก็มองเห็นกองไม้สัก สมชายเทียบรถบนไหล่ทาง

              “ขนาดเส้นรอบวง 180-250 ซม ยาว 10 เมตร ทั้งหมด 14 ท่อนครับ  แต่ละท่อนตันติกเลยครับ” ส่วนตะโกนบอก 

               สมชายเดินไปนั่งบนต้นสักแล้วลงมือบันทึกการจับกุมตามหน้าที่ ประเสริฐกับทุกคนช่วยกันวัดไม้แต่ละท่อน สา ว.แจ้งสำนักเพื่อให้ประสานงานไปยัง ออป.มาชักลากไม้ของกลางไปเก็บรักษาไว้ที่หมอนไม้ออป. 

               มณีเดินไปยืนบนลำต้นไม้สักใบหน้าไม่ปรีย์เปรมเอาเสียเลย ได้แต่มองเหม่อไปยังผืนป่าเขียวขจีเบื้องหน้า ใช่ ! บนผืนป่าที่เห็นอยู่เบื้องหน้านี่แหละมณีห่วงที่สุด เป็นผืนป่าผืนสุดท้ายของอำเภอนาน้อย เป็นป่าไม้ที่สมบูรณ์สองฝั่งแม่น้ำน่าน ตรงไหนเป็นป่าไม้สัก ตรงไหนเป็นป่าดงดิบ ตรงไหนเป็นป่าเต็งรัง ตรงไหนชาวห้วยเลาอยู่และทำกิน มณีรู้ดี    ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี บางต้นสีเหลือง บางต้นสีส้ม แต่อีกหลายๆต้นสีเขียวแก่  เรือนยอดต้นไม้ชิดติดกัน มันช่างเป็นภาพความสวยงามจับใจ มณีเศร้าใจสุดๆ น้ำตารื้นขึ้นมาจนแทบจะเอ่อท้นทำนบ มณีสูดลมหายใจเข้าเพื่อเป็นการกลั้นก้อนสะอื้นไว้อย่างยากลำบาก พลางก็นึกในใจว่า

             “นี่จะปกป้องผืนป่าผืนสุดท้ายให้ชาวนาน้อยได้หรือเปล่าก็ไม่รู้”

            หลังการบันทึกจับกุมเรียบร้อย มณีสั่งให้สาอยู่เฝ้าไม้ของกลาง รอ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้มาชักลากไปเก็บรักษา  รถปีศาจขาววิ่งด้วยความเร็ว ไต่ไปตามไหล่เขาที่คดโค้ง บางช่วงเป็นป่าไร่เหล่า(ทำไร่แล้วปล่อยทิ้งไว้) บางช่วงกำลังเตรียมพื้นที่จะปลูกพืชไร่  บางดอยสูงเป็นป่าดงดิบที่แน่นทึบไปด้วยพันธุ์ไม้ป่านานาพันธุ์

             รถยนต์จอดหน้าโรงพัก  มณีและสมชายเดินขึ้นไปแจ้งความดำเนินคดี จับไม้ไม่มีตัว ตำรวจเวรหลายคนยืนยิ้มๆ ยกมือไหว้มณีและรับดำเนินคดี ไม่เห็นสารวัตรใหญ่ในห้องทำงาน หมวดที่ยืนถือปืน M.16 ก็ไม่เห็นหน้า

           “งานยักษ์เลยนะพี่” จ่าเวรพูดขึ้นลอย

           “ครับ” มณีตอบสั้นๆ ไม่อยากจะขยายเรื่องราว จ่าเวรก้มหน้าจดบันทึกการจับกุม

           “ของกลางอยู่ไหนพี่” จ่าเวรสอบถาม

           “ออป.กำลังเข้าไปชักลากไปเก็บรักษาครับ”

          “มูลค่าความเสียหาย เป็นเงินสูงไปหรือเปล่า” จ่าเวรถามอีกเมื่อถึงข้อความที่อยู่ในบันทึกการจับกุม

          “ไม่หรอก คิดตามราคากลางแล้ว” มณีตอบช้าๆ

          “ไม้ไม่มีตัวและรถยนต์ของกลางแน่นะครับ” จ่าเวรถามอีก

          “ไม่พบรถบรรทุกไม้แต่อย่างใด เป็นไม้กองรวมกันอยู่” สมชายตอบแล้วหัวเราะฮึฮึ  แต่มณีกลับนิ่ง

           สายตรวจส่งคดีเสร็จก็บึ่งรถไปร้านอาหารตามสั่ง  ร้านพี่นึกเจ้าเก่า

          “มาแต่เช้าเลยนะหัวหน้า ได้งานใหญ่หรือครับ” พี่นึกทักทายพร้อมกับหัวเราะนิดๆ

          “ครับ” มณีตอบสั้นๆ แล้วสั่งรายการกับข้าว สำหรับคณะสายตรวจ

           “ต้มยำปลาแค่ น้ำข้นนะ  คะน้าผัดหมูกรอบ  ไข่เจียวหมูสับ ผัดกระเพราหมู ใส่พริกเผ็ดเต็มสูตร อ้อ..ข้าว 1 หม้อครับ”

          “น้ำ น้ำแข็ง โซดาด้วย แม่โขงแบน” สมชายสั่งต่อ แล้วหัวเราะ “ล้างคอพี่”

           มณีนิ่งผิดกว่าทุกครั้งที่จับไม้ได้ มีความกังวลอยู่ในใจและดวงตา ทุกคนก็ดูท่าไม่มีความสุขกันเท่าไร ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรอีก อาจปฏิบัติงานในพื้นที่ไม่ราบรื่น หรืออาจถูกกลั่นแกล้งจากความโกรธ นึกในใจ “คงไม่มีอะไรน่า” พี่นึกลำเลียงอาหารลงโต๊ะ ส่วนตักข้าวแจกจ่าย เผ่นรินเหล้า เติมน้ำเปล่าแล้วเหยาะโซดาอีกหน่อย คาดเดาว่าน่าจะได้รสชาติพอดี 

            กินจนอิ่มเพิ่งนึกขึ้นได้ “เฮ้ย ไอ้สา..”

           “กินข้าวลิงไปก่อนแล้วกัน  พี่ไม่ต้องห่วง  ผมวางกล้วยไว้ให้มันครึ่งหวีแล้ว” สมชายบอกเล่าด้วยรอยยิ้ม มณีโล่งใจ 

 

   

Tags : เสือกลิ่นสาบ Tiger line 

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view