โชคดีที่ได้ไปกินข้าวชาวรามัญที่เมียวดี
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
วันหนึ่งเพื่อนชื่อจำลอง บุญสอง บก.ท่องเที่ยวโพสท์ทูเดย์ กับเพื่อนชื่อ ประทีป นรมั่ง จากกรมราชทัณฑ์ โทร.มาชวนให้ไปเที่ยวที่อำเภอแม่สอดจังหวัดตาก ซึ่งอยากไปอยู่แล้ว ได้โอกาสงามๆต้องกราบสัก 3 ที โดยขับรถไปกันเองตามถนนสายเอเซียไปเลี้ยวแยกอำเภอแม่สอดแล้วเลาะเลียบไปตามถนนที่คดโค้ง ไม่ได้นับว่ากี่โค้ง แต่ก็สบายๆสำหรับมือโปรอย่างคุณจำลอง
เจดีย์องค์ใหญ่
คุณประทีปเล่าว่า "อีก 2 ชั่วโมง เพื่อนอยู่ฝั่งเมียนมาร์เป็นทหารรรามัญรัฐมอญ จะมารอรับที่ฝั่งไทยเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางข้ามไป พร้อมกับจะนำไปไหว้พระเจดีย์ของเมืองเมียวดีด้วย"
เป็นไปตามเวลาเป๊ะ พท.อ่อง นายทหารร่างสูงใหญ่ก็เดินทางมารับ เดินข้ามสะพานแม่น้ำเมยก็มีความรู้สึกแปลกๆ หญิงสาวชาวพม่าเทินหัวด้วยวัสดุสิ่งของนานาชนิด เป็นเอกลักษณ์หนึ่งของการแบกของ ถ้าเป็นหญิงไทยขอให้วัสดุสิ่งของจะหนักหรือเบาก็ใช้วิธีหิ้วเอา ถ้าหญิงไทยทำเช่นนั้นบ้างก็อาจผิดวัฒนธรรมหญิงไทย ดูไม่งาม แต่สำหรับสาวเมียนมาร์อาจดูว่าเธอแกร่ง
ศิลปะรามัญเมียนมาร์ พระธาตุอินแขวนจำลอง
ระหว่างเดินบนสะพานผมเห็นความเคลื่อนไหวในแม่น้ำเมยทางทิศเหนือของสะพาน ก็เลยเก็บภาพไว้ เป็นการข้ามแดนแบบพิศดาร เขาไม่ใช้เรือข้ามฟากอย่างไทยๆ แต่เขาใช้ยางรถยนต์ขนาดใหญ่อัดลมเต็มที่ให้คนนั่งลอยข้ามฟาก แต่น่าเสียดายที่ผมลบไฟล์ทิ้งไปเสียแล้ว คนแก่ก็เผลอเรออย่างนี้แหละ ไม่งั้นก็ได้เห็นขำๆ เอ้า ใครไปแม่สอดแล้วลองไปดูก็แล้วกันว่า จริงมั้ย!
พระอุปคุต น่าอยู่..เน๊าะ
พท.อ่องพาไปขึ้นรถยนต์ส่วนตัวของเขา มีพนักงานขับให้ มีเพื่อนี่ช่างสะดวกดีจริงๆ เขาพาไปชมวิถีชีวิตคนมอญในท้องถิ่น แต่ผมเห็นคนพม่าดำๆคล้ายแขกหลายคนอยู่ คงจะอยู่รวมๆกัน ไล่ไปเรื่อยๆจนถึงวัด มีพื้นที่กว้างขวาง ตั้งอยู่บนเนินเขาลูกหนึ่ง รอบๆวัดมีหมู่บ้านล้อมรอบ ส่วนที่ดินทำนาทำสวนและปลูกพืชไร่ก็อยู่ต่ำลงไปจากหมู่บ้าน
ปางรำพึงหรือ?
บนฐานเจดีย์องค์โต มีระเบียงโดยรอบ สามารถเดินไปชมวิวทิวทัศน์รอบแบบ 360 องศาได้เห็นการทำกินแบบชาวไร่ปลูกพืชล้มลุก พืชสวนก็มีเช่นลำใย มะม่วง ที่ยังรู้สึกตะหงิดๆก็คือ สวนยางพารา มีปลูกไม่น้อย มองไปอีกมุมหนึ่งมีกระท่อมมุงหญ้าคาน่ารัก จนนึกถึงกระท่องไพรได้รำไร เขาสร้างไว้ใกล้ๆต้นไม้ป่ายืนต้นสูงลิ่ว
พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน
พระพุทธรูปมีให้เห็นหลายปาง เช่นปาง............และปางพระอุปคุต มีชาวรามัญนั่งสมาธิอยู่บ้าง กราบแล้วใส่ดอกไม้ธูปเทียนแล้วก็ไป ใต้องค์พระเจดีย์เย็นสบายดี ลมพัดผ่านฉุยๆ มีเต่าถูกทาด้วยสีเหลือเดินกันไปมาหลายตัว เด็กๆมาเล่นกับเต่าหลายคน ดูน่ารักนั่งคุยกันไปนานพอควร เรื่องที่คุยเป็นเรื่องที่อยากรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ภายในประเทศเมียนมาร์เสียส่วนใหญ่
ประแป้งกระแจะจันทร์ตามวัฒนธรรมชาวรามัญ
เดินลงจากพระเจดีย์ กะกันว่าจะไปเดินเล่นในหมู่บ้าน แต่แล้วก็พบกับหญิงชาวรามัญแต่งตัวเรียบร้อยด้วยผ้าถุงกรอมเท้า เสื้อขาวแขนยาวและห่มสะไบเฉียง มัดผมมุ่นไว้บนกระหม่อม กำลังเดินเข้าประตูศาลาวัดเธอจึงเชิญชวนด้วยภาษาไทยแปร่งๆ
"วันเกิดหลวงพ่อเจ้าอาวาส ไปๆไป ไปกินข้าวด้วยกัน"
คุณยาย คุณหนู..น่ารัก
แขกผสมดอยเยี่ยงเรา จึงตัดสินใจเข้าไปกราบพระแล้วร่วมวงกินข้าวกลางวันกับแม่หญิงรามัญน้ำใจงามกลุ่มนั้น เขาตั้งโต๊ะกลมแบบเตี้ยๆ นั่งล้อมวงกับพื้น เพื่อนร่วมวงเป็นแม่หญิงที่ประแป้งกระแจะจันทร์เยี่ยงสาวชาวเมียนมาร์ เด็กสาวคนหนึ่งนั่งริน้ำแจกให้ หญิงกลางคนที่ชวนเข้ามาร่วมวงตักข้าวใส่จานแจก แล้วคำเชิญชวนก็บอกว่า "กินกันเถอะ"
คุณประทีป นรมั่งกับพี่น้องหญิงรามัญ โต๊ะรับประทานอาหารงานวันเกิดพระ
กับข้าวที่เห็นถ้วยก็มีหมูสามชั้นคล้ายว่าแกงฮังเล แกงถั่วกับไก่ ผัดพริกหมู และน้ำพริกผัดกะปิ ใส่กระเทียมเจียวหอมฉุย ผักแกล้มเป็นแตงกวาหั่น มีถ้วยขนมพื้นถิ่นของพี่น้องชาวรามัญ แต่จำชื่อไม่ได้ หากพี่น้องชาวรามัญในประเทศไทยเห็นแล้วรู้จักก็ช่วยเม้นท์เข้ามาด้วย เผื่อพี่น้องผองเว็บทองไทยแลนด์ดอทคอมได้รู้จัก เป็นการสืบสานวัฒนธรรมหนึ่งของชาวรามัญเรื่องอาหารการกิน วันนั้พูดไม่อาย ผมกินไปสองจาน นึกถึงทีไรอยากกลับไปกินข้าววัดที่เมียวดีอีก
แกงฮังเลหมูสามชั้น ผัดพริกแกงถัวกับไก่
พ.ท.อ่องมาส่งถึงชายแดนเมียวดี พวกเราสามคนเดินข้ามสะพานแม่น้ำเมยอีกครั้ง และนับจากนั้นจนวันนี้ ก็ยังไม่ได้มีโอกาสกลับไปอีกเลย แต่ในความทรงจำยังมีภาพความน่ารักและไมตรีที่น่ารักของหญิงพี่น้องรามัญ มอญในไทยก็น่ารักครับ เพียงแต่บางทีก็ดุไปหน่อย
พี่น้องชาวรามัญในประเทศไทยแถวนนทบุรี ปทุมธานี ราชบุรี ก็ล้วนมีความน่ารักในน้ำใจไมตรี
ไก่ผัดพริกแกง ผัดน้ำพริกกะปิ