พม่าไม่ไปไม่รู้ ๑๑
พระธาตุอินทร์แขวน ตะเกียงทองที่เรืองรอง ณ ปลายฟ้า
โดยเอื้อยนาง-เรื่อง/ภาพ
ณ ที่ตรงนั้น ฟ้าหย่อนมวลเมฆละอองไอให้ลอยเรี่ย ๆ ลงมาจรดกับภูผาและทิวป่าเขียวไสว
ณ ที่ตรงนั้น ภูเขาลูกหนึ่งแทงทะลุขึ้นพ้นแนวป่า โดดเด่นอยู่ท่ามกลางละอองไอแห่งหมอกควัน
ณ ที่ตรงนั้น ตรงที่บางผาหินยื่นชะโงกง้ำงอก ออกจากแนวสันภู ดูดั่งเป็น ความตั้งใจของใครบางคนมาต่อเติมภูผาด้วยศิลาก้อนโต
ณ ที่ตรงนั้นเอง ปรากฏตะเกียงรูปดอกบัวสีทองเปล่งประกายรัศมีรองเรือง โดดเด่นมองเห็นแต่ไกล ไกล ไกล....ไปสุดขอบฟ้า
พระธาตุอินทร์แขวน
งามแม้นดอกบัวจากสรวงสวรรค์
แขวนอยู่ได้ด้วยมนตราน่าอัศจรรย์
ฤาอินทร์ท่านจุดตะเกียงพะเนียงทอง
แล้วค่ำคืนนั้น ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการเดินทาง ความหนาวเหน็บจากละอองไอบนดอยสูง ความเปียกชื้นจนพื้นเฉอะแฉะน่ากลัวลื่นไถล ก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด หลังอาหารเย็นอันรีบเร่งเราเอาข้าวของซึ่งมีเพียงกระเป๋าหนึ่งใบบรรจุเสื้อผ้าพอได้ผลัดเปลี่ยนไปไว้ในห้องพัก แล้วกลับออกมาชวนกัน มุ่งหน้าหน้าสู่พระธาตุที่ได้ชื่อว่าพระธาตุจุฑามณีซึ่งพระอินทร์ท่านนำมาจากสรวงสวรรค์ มาแขวนไว้ให้มนุษย์โลกได้กราบไหว้บูชา
บริเวณวัดที่พระธาตุตั้งอยู่เป็นอีกด้านหนึ่งของยอดเขา มีทางถนนทอดยาวจากกลุ่มอาหารด้านที่เป็นที่ตั้งของโรงแรม และรีสอร์ทสู่วัดที่อยู่สูงขึ้นไปจึงมีบันไดทอดลดหลั่นอยู่เป็นระยะ ดวงไฟรุบรู่อยู่ในม่านหมอกหม่นติดไว้เป็นระยะห่าง ๆ พอได้เห็นทางเดินให้ตามกันไปเป็นกลุ่ม ๆ
ครั้นถึงประตูจะเข้าสู่เขตอารามเป็นที่ตั้งของอาคารรูปแบบพม่าสองหลังซ้ายขวา ภายในประดิษฐานไว้ด้วยรูปปั้นบุคคลที่ล้วนเกี่ยวข้องกับตำนานการเกิดขึ้นของพระธาตุอินทร์แขวน วิหารด้านขวามือมีทั้งพระพุทธรูป พระฤาษี เทพ และหมู่คนที่หันหน้าแสดงความเคารพสูงสุดต่อองค์พระพุทธรูป และฤาษี รวมถาดเครื่องบูชา ตู้บริจาคแล้วเหลือทางเดินให้ผู้คนพอเบียดตัวเข้าไปได้ครั้งละไม่มากนัก ก็ยังมีผู้พอใจจะเดินเบียดเข้าไปกราบไหว้ อธิษฐานขอพร แสดงถึงความศรัทธาสูงสุดของปวงชน ส่วนด้านซ้ายมือเป็นศาลนัต ที่แปลกเพราะนัตองค์นี้เป็นผู้หญิงที่ทอดนอนเหยียดยาว ผู้ศรัทธาจะเอาเงินทองเครื่องบริจาคบูชาวางไว้ตามร่างกายของนัต เชื่อกันว่าใครเจ็บปวดตรงไหน เช่น หลัง เอว แขน ฯลฯ ก็ให้วางเครื่องบูชาดังกล่าวไว้ตามตำแหน่งนั้นของนัต
นัตองค์นี้คือ นางชเวนันจี มเหสีของพระเจ้าติสสะ ที่มีในตำนานพระธาตุอินทร์แขวน นางสู้อดทนเดินทางมาไหว้พระธาตุทั้ง ๆ ร่างกายป่วยไข้อ่อนแอ แต่ก็ด้วยใจศรัทธาจึงซมซานปีนป่ายภูเขาขึ้นมาจนถึงตรงนี้มองเห็นพระธาตุเรืองรองอยู่ไกล ๆ นางก็สิ้นใจตายกลายเป็นนัตเฝ้าทางขึ้นสู่พระธาตุ และต่อมาก็มีผู้ศรัทธากราบไหว้ขอพรให้หายเจ็บปวดป่วยไข้ก็ได้ดั่งขอจึงมีการสร้างศาลและรูปปั้นของนางไว้ ณ ที่แห่งนี้
คืนนี้ไม่มีทั้งเดือนและดารา แต่แสงหนึ่งเรืองรองให้ต้องตะลึงแล และรีบสาวเท้าก้าวเดินตัดลานกว้างในเขตวัดมุ่งหน้าไป ต่างคนต่างไปไม่พะวักพวนต่อกันแต่จุดหมายเดียวคือพระธาตุที่รองเรืองโดดเด่นในความสลัวรางแห่งหมอกหม่นองค์นั้น
ถึงแล้วพระธาตุอินทร์แขวน ผู้คนมากมายทั้งไทย พม่า มอญ กะเหรี่ยง ฝรั่ง จีน จาม ต่างมารวมใจกราบไหว้พระธาตุอินทร์แขวน
๐๐๐๐๐๐