อ่าวซิดนีย์ แหล่งท่องเที่ยวที่ไปออสเตรเลียแล้วไม่ไปไม่ได้
โดยธงชัย เปาอินทร์-เรื่อง-ภาพ
ช่วงหนึ่งที่ได้ไปประเทศออสเตรเลีย รัฐนิวเซาเวลล์ เมืองซิดนีย์ แล้วก็ได้ไปท่องเที่ยวหลายแห่งแหล่งที่น่าสนใจ ไปไกลจนได้พบเพื่อนเก่าที่กรุงแคนเบอร์ราอันเป็นนครหลวงของประเทศ ความรู้สึกหรือ รู้สึกประทับใจในความเป็นออสเตรเลียที่มีทั้งชนเผ่าดั้งเดิมชื่ออะบอริจิน(Aborigin)และชาวต่างชาติที่อพยพเข้าไปอยู่เมื่อปีคศ.1778 ทุกวันนี้ประเทศนี้มีชนชาติเชื้อแตกต่างมากมายอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้องร่วมแผ่นดินเดียวกัน ไม่เห็นแบ่งสีกันเลย
ไหนๆก็ไปประเทศออสเตรเลียแล้วก็อยากเสนอเรื่องราวของประเทศนี้ให้ได้รู้ไว้ประดับเรื่องราว เช่นว่ามีพื้นที่กว้างขวางถึง 7,686,850 ล้านตารางกิโลเมตร โดยมีพื้นน้ำ 1% ประชากร 21 ล้านคน เมืองหลวงชื่อแคนเบอร์รา แบ่งออกเป็น 6 รัฐ คือนิวส์เซาเวลล์ ซึ่งมีเมืองใหญ่ที่สุดชื่อซิดนีย์ รัฐควีนแลนด์ รัฐเซาท์ออสเตรเลีย รัฐแทสเมเนีย รัฐวิคตอเรียและรัฐเวสท์เทิร์นออสเตรเลีย และด้วยว่าประเทศนี้มีแต่ผู้อพยพเข้ามาอยู่เป็นส่วนใหญ่จึงไม่มีศาสนาประจำชาติ
แต่เมื่อปีพ.ศ.2549 พบว่า มีชาวคริสเตียน 12.6 ล้านคน ความเชื่อแบบอเทวนิยม มนุษยนิยม agnosticism (ลัทธิไม่เชื่อศาสนา) และ rationalism (ลัทธิถือเหตุผล) ประชากรเกือบหนึ่งล้านคน (5%) นับถือศาสนาอื่นๆ รวมถึงพุทธศาสนา ศาสนาอิสลาม ศาสนาฮินดู และศาสนาเชน อย่างไรก็ตาม มีประชากรเพียง 1.5 ล้านคน (7.5%) ที่เข้าโบสถ์เป็นประจำ
ประเทศออสเตรเลียยังเป็นประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ โดยมีการปกครองแบบสหพันธรัฐราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ มีผู้สำเร็จราชการแผ่นดินของประเทศอังกฤษ ใช้ภาษาราชการเป็นภาษาอังกฤษ ประมุข คือพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 2 สกุลเงิน ดอลลาร์ออสเตรเลีย(AUD) รหัสอินเทอร์เน็ต : .au และ รหัสโทรศัพท์ : +61 รู้ไว้ใช่ว่านะครับ
โอเปราเฮ้าส์ที่ซิดนีย์
แต่สิ่งที่ผมประทับใจมากคือ ผมจ้างรถตู้แท็กซี่จากสนามบินไปยังเมืองวูลลองกอง เมื่อไปจนถึงที่ ผมลง เขาขนกระเป๋าลงให้ แต่ด้วยความตื่นเต้นก็เลยยืนคุยกันอยู่หน้าบ้านพัก ผมตกใจเมื่อยังเห็นรถตู้แท๊กซี่จอดรออยู่ ความรู้สึกแรกท่าจะไม่ได้ให้ทิป ตัดใจเดินไปถามได้ความว่า นี่เป็นหน้าที่ของเขา หากส่งแขกแล้วยังไม่เข้าที่พัก เขาต้องรอดูจนกว่าแขกจะเข้าที่พักเรียบร้อยแล้วจึงจะออกรถไปได้ โอ้ มายก๊อด
อะควาเลี่ยมอยู่ติดกับโอเปราเฮ้าส์
ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานครแห่งความสับสน ผมได้แวะไปท่องเที่ยวแห่งสุดท้าย นั่นคือได้ไปท่องเที่ยวที่อ่าวซิดนีย์ ซึ่งมีจุดเด่นมากคือ ซิดนีย์โอเปราเฮ้าส์(Sydney Opera House) ซึ่งเป็นโรงละครที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ปลายแหลมของอ่าว มีรูปโครงสร้างหลังคาเป็นเหมือนกาบหอยซ้อนๆกัน ดูโดดเด่นมาก เป็นภาพที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกไปถึงก็อดใจถ่ายมาไม่ได้หรอก มันช่างยิ่งใหญ่อลังการ เป็นเอกลักษณ์ของอ่าวซิดนีย์เลยก็ว่าได้
บรรยากาศ น่านั่งไหมล่ะ
เบื้องหน้าโอเปราเฮ้าส์เป็นลานกว้าง มีร้านกาแฟให้นั่งดื่มรับอากาศจากทะเล เป็นร้านรวงที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้าออกตลอดเวลา ใครๆก็ชอบอยู่ใกล้น้ำ ใกล้ทะเล นอกจากเย็นสบายแล้วยังให้ความรู้สึกโรแมนติกมากๆ คู่ฮันนี่มูนสมควรไปนั่งสบตาดื่มกาแฟกันสักครั้ง หลังจากนั้นแล้วออกเดินทางไปชมอะควาเลียมที่อยู่ใกล้ๆกัน ดูสัตว์น้ำแปลกๆของท้องทะเลออสเตรเลีย และนกเพ็นกวินจิ๋วในห้องแอร์ซ้อนแอร์
ผมเดินออกจากอะควาเลียมก็พบกับลมพัดตึง เย็นชื่นใจเหลือกำลัง แต่พอเดินไปได้นิดหนึ่งก็ได้เห็นหุ่นประหลาดสีตะกั่ว ยืนเด่นมาก ดูแล้วน่าจะยืนอยู่บนขาหยั่งเหมือนในตัวตลก กำลังเสวนากับเด็กหญิงสองคน เป็นศิลปะหนึ่งของการแสดงที่นิยมไปทั่วโลก เช่นเดียวกับประเภทดนตรีเปิดหมวก อย่างไรก็ดี ผมทำได้เพียงลักลอบถ่ายรูปเขามาให้แฟนๆได้ดูกันเท่านั้น เพราะว่าภาษาอังกฤษของผมอ่อนด้อย นี่คือระบบเรียนภาษาอังกฤษของผมที่ล้มเหลว แก้ไขไม่ได้แล้ว แก่แล้ว
ผมเห็นสะพานข้ามแม่น้ำกว้างใหญ่มาก มีนักท่องเที่ยวเดินข้ามไปข้ามมามากมายทีเดียว ผมตัดสินใจชวนกันไปลองเดินดูบ้าง โอ้โฮ พี่น้องครับ สะพานนี้เขาสร้างเพื่อให้รถยนต์วิ่งข้ามฝั่งถึงกันได้ แต่ว่าวันนี้เขาให้คนเดืน กลายเป็นสะพานคนเดินเที่ยวครับ ดังนั้นแหล่งท่องเที่ยวทั้งสองฝั่งจึงเชื่อมต่อกันได้อย่างกับเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วก็เปิดให้เดินทั้งกลางวันและกลางคืน มันคือเสนห์อย่างหนึ่งของซิดนีย์ครับ สะพานอาร์เบอร์บริด(Sydney Habour Bridge)
เมืองอ่าวซิดนีย์ทุกวันนี้ยังมีเสน่ห์มาก เพราะว่าตึกรา,บ้านช่องเก่าแก่มาก รูปทรงก็คงสภาพเดิมๆ ร้านค้าบางร้านเคยขายของอะไรอยู่ก็ยังคงอาชีพเดิมๆไว้ ถือได้ว่าเป็นถนนประวัติศาสตร์ หรือเป็นถนนวัฒนธรรมเก่าแก่ก็ยังได้ ผมเดินผ่านเข้าไปตามซอกซอยฝั่งโอเปราเฮ้าส์ได้ซื้อข้าวโพดซุปเปอร์สวีทนึ่งร้อนๆแล้วก็เดินกินเหมือนกับชาวต่างชาติคนอื่นๆ สมกับวัยวุฒิพอดี
เมื่อถึงเวลาต้องเดินทางกลับประเทศไทย ผมและคณะมีกระเป๋าเดินทางถึง 16 ใบ เห็นแล้วสงสารคนรถก็เลยจะเข้าไปช่วยยกเข้าท้องรถ แต่พนักงานขับรถห้ามเด็ดขาด เขาบอกว่าเป็นหน้าที่ของเขา ขึ้นรถไปนั่งกันได้เลย เมื่อถึงเป้าหมาย เขาก็ยกออกมาเรียงให้เรียบร้อย ผมพยายามจะทิปพิเศษให้แต่ได้รับคำตอบว่า ไม่ต้อง เป็นหน้าที่ของเขาครับ
โคตรประทับใจชาวออสเตรเลียเลยครับ